เปิดบทบาทนอกจอในชีวิตจริงของ อู๋ นวพล กับการเป็นสามีและคุณพ่อลูกหนึ่ง พร้อมอัพเดทอาการหลังออกกำลังกายหนักจนปอดรั่ว !!!
ก้าวเข้าสู่เส้นทางนักแสดงอิสระแบบเต็มตัวอีกคน สำหรับ อู๋ นวพล ที่ได้มาเยือนรายการ ต้มยำอมรินทร์ ผลิตโดย CHANGE2561 ที่งานนี้ เจ้าตัวได้เปิดบทบาทนอกจอในชีวิตจริงแบบหมดเปลือกกับสถานะของการเป็นสามี และ คุณพ่อลูกหนึ่ง ทั้งๆที่ก่อนหน้าที่จะแต่งงานไม่เคยคิดที่จะอยากมีลูกเลย พร้อมยังอัพเดทอาการปอดรั่วจากการออกกำลังกายที่หนักหน่วงเกินตัวของตัวเอง
เข้าสู่วงการมาก็ดูแลตัวเองฟิตกล้ามแล้วเกิดอะไรขึ้นทำไมจู่ๆเกิดปอดรั่ว
อู๋ นวพล : เพราะออกกำลังกายครับ แต่จริงๆผมไม่ได้โทษเรื่องการออกกำลังกายนะครับ แต่เพราะด้วยความที่เราพักผ่อนน้อยแล้วเราก็ทำงานเยอะ แล้วเราก็ไปออกกำลังกายทีนี้ยกเหล็กเกือบแผ่นสุดท้ายแล้วทีนี้คือ เราเล่นไปแค่อก หลังเองครับแล้วมันก็มีอาการคือเรายืนตรงไม่ได้เลย เราต้องทำตัวงอตลอดเวลา (เพราะตอนแรกเราก็ยังไม่รู้ว่าเราเป็นอะไร เราคิดว่าสงสัยกล้ามเนื้ออกของเราคงจะบีบทำให้เราหายใจไม่ปกติ แต่ไม่ใช่เลยครับเพราะเรากลับไปที่บ้านแล้วเวลากลางคืนที่เรานอนเราทรมานหนึ่งคืนเต็มๆเพราะเราคิดว่าเรากินยาคลายกล้ามเนื้อแล้วจะหาย) แล้วพอตื่นเช้าขึ้นมาเราก็ไปโรงพยาบาลดูคิดว่าไปแค่เอายาแล้วก็คงได้กลับบ้าน แต่จริงๆแล้วไม่เลยครับ เข้า ICU เลยหมอบอกว่าเรามีรูรั่วที่ปอด 4 เซนเลย) อาการของปอดรั่วของผมคือ หายใจได้ไม่สุด ตัวก็ต้องงออยู่ตลอดเวลาเลยครับ หมอเขาก็เจาะแล้วเอาท่อยางสอดเข้าไปแล้วหลังจากนั้นคือ ผมก็ไม่รู้ตัวเลยว่าเขาทำอะไรบ้างผมนอน ICU มาหนึ่งคืนครับ ซึ่งคุณหมอ บอกเราว่ามันไม่มีสาเหตุที่แน่นอน แต่คนที่เป็นปอดรั่วส่วนใหญ่คือคนที่ผอมและสูง ซึ่งทุกวันนี้เวลาที่เราออกกำลังกายเราจะไม่เล่นหนักแล้วครับ เราจะใช้น้ำหนักของตัวเองเล่นไปเลย ซึ่งตอนนั้นที่เราเล่นเราก็มีเทรนเนอร์นะครับ แต่เราไม่โทษเขานะครับ เราโทษตัวเองว่าเราเกรงใจเขาเราไม่กล้าเบรคเขาว่าเราไม่ไหว
ซึ่งตอนนั้นพูดได้เลยไหมว่า อู๋ เป็นคนที่บ้าออกกำลังกายมาก
อู๋ นวพล : เรียกว่าเสพติดการออกกำลังกายเลยครับ แล้วเราก็ไปเล่นทุกคลาสเพราะเรามีแรงบันดาลใจเพราะว่าไปจีบหญิง เราเข้าหมดเลยทั้ง ซุมบ้า ลาตินแดนซ์ เราเล่นทุกอย่างเขาทุกอย่างเลยเพราะว่าเราไปจีบหญิงอยู่ (หัวเราะ)
ต้องขอย้อนไป อู๋ เข้าวงการมากี่ปีแล้ว
อู๋ นวพล : เข้ามาช่วงประมาณปี 43 – 44 ครับ ตอนนั้นที่เข้ามาในวงการเพราะว่าเราประกวดดัชชี่ครับ พอดีคุณของผมเล่นฟิตเนสอยู่ที่เดียวกับ พี่เขตต์ เขาสนิทกันเลยชวนเราไปประกวด ถามว่าคือสิ่งที่เราสนใจอยู่แล้วไหม เราก็รู้สึกเฉยแต่ว่าก็ลองดูได้ครับ เพราะว่าเราก็ชอบทำกิจกรรมอยู่แล้ว ตอนนั้นที่เข้ามาก็อายุประมาณ 18 ครับ ที่เข้ามาประกวดได้ตำแหน่งดัชชี่บอย เป็นปีเดียวกับ พี่ยุ้ย จีรนันท์ เลยครับตอนนั้น แล้วเราก็เข้าเซ็นสัญญาช่องและ 3 – 4 เดือนเราก็ได้ละครเลย
ละครเรื่องแรกที่ อู๋ เล่นคือ ไม่ธรรมดานะเพราะว่าคนชมมากเลยว่าเล่นเป็นธรรมชาติมาก แข็งเหมือนก้อนหินและเป็นเหมือนต้นไม้
อู๋ นวพล : ใช่ครับ (หัวเราะ) แล้วตอนนั้นคือที่เราเข้ามาผอมตัวดำยังไม่มีกล้าม แล้วประสบการณ์ของเราก็ไม่มี การแสดงก็ไม่เคยเรียน แล้วเจอเรียนแรกคือต้องเข้าป่า ทั้งบู๊ ทั้งอะไรแต่คือสนุกมากครับ นางเอกคนแรกของผมก็คือ เมย์ บัณฑิตา
แต่ก็ต้องบอกว่าฝีมือการแสดงตอนนี้คือพัฒนามาเรื่อยๆเพราะก็อยู่ในวงการมาตั้ง 20 ปีแล้วและรับมาหลายบทบาทมากทั้งพระเอก ทั้งตัวร้าย อู๋ ชอบในบทบาทไหนมากที่สุด
อู๋ นวพล : ผมว่าบทร้ายแหละเพราะว่ามันมีอะไรให้ทำเยอะ แต่จริงๆก็อยากเล่นเป็นพระเอกนะครับ อยากเล่นเป็นคนดี แต่ว่าตัวร้ายคือ มันได้ทำอะไรก็ได้มันได้ปลดปล่อย แต่ว่าบทไหนเราก็รับหมดครับ เพราะว่าเรารักในการแสดง ยิ่งมีหลายบทบาทเราก็ยิ่งชอบ คนดูจะได้เห็นเราในหลายๆบทบาทครับ ส่วนบทที่ยากเล่นที่เห็นเขากำลังฮิตๆกันคือ แนววาย เพราะว่าผมก็เคยรับบทเป็นผู้จัดการสาวประเภทสองมาแล้วผมว่ามันสนุกดีได้ท้าทาย ส่วนบทที่ยากที่สุดที่ได้รับมาคือ ภาษาครับ เพราะว่าผมเป็นคน กรุงเทพฯใช่ไหมครับ แล้วถ้าเราได้รับบทภาษาอีสาน ภาษาเหนือ ภาษาใต้ ผมว่าค่อนข้างยากเพราะว่าเราเล่นร้ายนอกจากเราต้องจำบท จำภาษาแล้วเราก็ต้องนึกคิวบู๊อีก มันก็เลยทำให้เราพะวง
และอีกบาทบทในชีวิตจริงของ อู๋ นวพล ซึ่งต้องเรียกว่ามือใหม่กันอยู่สำหรับการเป็นสามีและคุณพ่อด้วย แต่งานมากี่ปีแล้ว
อู๋ นวพล : 2 ปี แล้วครับ ส่วนตอนนี้ลูกชายขวบกับสามเดือนแล้วครับ ชื่อน้องเจ้าคุณ สนุกสนานดีเลยครับในการเลี้ยงเขา แต่ตอนนี้ก็ยังไม่ได้คิดถึงเรื่องของลูกคนที่สองไว้เลยครับ เพราะว่าผมคิดว่ามีลูกคนเดียวพอแล้วครับ ส่วนภรรยาของก็ขอมีคนเดียวเลยครับ (หัวเราะ)
ที่ตอบมาอย่างนี้ งั้น อู๋ ต้องตอบหน่อยแล้วว่า กลัวภรรยา ไหม
อู๋ นวพล : อย่างเรียกว่ากลัว เรียกว่าเกรงใจดีกว่าครับ มันจะได้ไม่มีเรื่องปะทะ หรือ ทะเลาะอะไรกันครับ เราแค่อย่าไปเถียงเขา เขาพูดอะไรเราก็ตามเขา เพราะครอบครัวของเราจะได้ราบรื่น จริงๆภรรยาของผมคือ เขาไม่ได้เป็นคนดุเลยนะครับ เขาไม่เคยมีการพูดหยาบกับเราสักคำเลย ซึ่งเขาก็ไม่ได้มีข้อห้ามอะไรเราเลยด้วยครับ มีเรื่องเดียวคือเรื่องผู้หญิงมันก็ครอบจักรวาลแล้วนะครับ
ที่ต้องมรกฎห้ามเรื่องผู้หญิงขึ้นมาหลังจากแต่งงานเพราะว่าแฟนเคยจับได้เรื่องคุยกับผู้หญิงอื่นถึงสามครั้ง
อู๋ นวพล : ครับ ก็มันนานมาแล้วแต่ตอนนั้นมันก็เป็นเรื่องใหญ่เลยจับได้ก็คือ เป็นเคสเดิม คนเดิม สามรอบ แต่ผมมองว่าตอนนั้นผมไม่ได้เป็นคนเจ้าชู้นะครับ (หัวเราะ) แต่สุดท้ายเราก็เลือกเขาคนที่เป็นแม่ของลูกเราคนปัจจุบันนี้
แล้วตอนนี้ความรักยังหวานเหมือนเดิมไหม
อู๋ นวพล : มีบ้างครับ เพราะว่าภรรยาคือ เขาเสียสละมากเพราะว่าเขาแยกตัวไปนอนกับลูกเลย เพื่อให้เราได้นอนอย่างเต็มที่เพราะว่าเราต้องออกไปทำงานถ่ายละครครับ
ส่วนบทบาทของ อู๋ นอกจากจะเป็นสามี เป็นคุณพ่อแล้ว ยังเป็นพ่อบ้านด้วย
อู๋ นวพล : เนื่องด้วยสถานการณ์ตอนนี้เราก็ไม่ค่อยอยากให้แม่บ้านมาที่บ้านเรา อะไรที่เราทำได้เราก็ทำหรือเราก็ช่วยทำ เช่น ล้างจาน ล้างรถ ดูดฝุ่น ถูกบ้าน ส่วนเขาก็จะดูเรื่องอาหารกับการเลี้ยงลูกไปครับ เพราะการดูแลลูกหนึ่งคนคือเหนื่อยมากจริงๆ
แต่ไม่ว่าใครที่มีลูกคือ จะหลงลูกกันหมดทุกคน อู๋ นวพล ก็เช่นกันเพราะตอนนี้เข้าไปดูในอินสตราแกรมไม่รู้เลยว่าเป็นอินสตราแกรมของ อู๋ หรือ ของลูก
อู๋ นวพล : ผมว่าเป็นทุกคนแหละครับ เพราะเราอยากจะเก็บภาพ หรือ บรรยากาศช่วงนี้ของเขาให้มันเยอะที่สุด เพราะว่าพ่อกับแม่ของผมบอกว่าต้องเก็บช่วงนี้ให้มากที่สุดเพราะว่ายิ่งเขาโตขึ้นเขาจะยิ่งห่างเราออกไป ซึ่งตอนแรกที่ผมอยากได้คือ ลูกผู้หญิง แต่มีลูกผู้ชายก็แฮปปี้ครับ แล้วก็คุยกับภรรยาแล้วเขาก็บอกแล้วว่ามีแค่คนหนึ่งพอ
แต่ต้องย้อนกลับไปอีกนิดว่ากว่าที่จะมาเป็นคุณพ่อ ที่เห่อลูกเบอร์นี้เคยคิดว่าจะไม่มีลูกเลย
อู๋ นวพล : เพราะว่าก่อนที่เราจะแต่งงานเรามองภาพไม่ออกเลยว่าเรามีลูกแล้วเราจะเป็นยังไง จะไปสอนอะไรยังไงเขา
เป็นเพราะว่าก่อนหน้านั้นเราเป็นผู้ชายที่ Bad Boy หรือเปล่า
อู๋ นวพล : สำหรับผมขอ 60 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นนะครับ จุดที่ทำให้เราเปลี่ยนเลยคือ แต่งงาน แล้วก็มีลูกชายเลยครับ ขับรถช้าลง เที่ยวน้อยมาก ดื่มนี้คือน้อยมากๆเลยครับ บุหรี่เลิกเลยเด็ดขาดครับ ชีวิตของเราก็เลยดีขึ้นๆ
แล้วอะไรที่ทำให้เราคิดว่าพร้อมแล้วที่จะมีลูก
อู๋ นวพล : ก่อนที่จะแต่งงานผมก็คุยกับแฟนเขาบอกว่าเขาอยากมี แต่เราไม่อยากมี แต่เขาบอกว่าถ้าแต่งแล้วไม่มีเราก็แยกย้ายกันไปนะ แต่เพราะว่าเรารักเขาไงครับ เราก็เลยยอมเขา แต่พอมีลูกแล้วชีวิตก็ดีจริงๆครับ จากเมื่อก่อนเราไม่มีจุดหมายหรือเป้าหมายในชีวิตว่าเราจะทำจุดนี้ไปเพื่ออะไรเพื่อใคร แต่ตอนนี้พอมีเขาก็ทำให้เรามีเป้าหมาย ทำให้บ้านเราอบอุ่นขึ้น แล้วอะไรที่เราทำผาดโผนไปไหนก็เบาขึ้น
ตอนนี้ไม่ผาดโผนไปไหนแล้วเพราะเขาลงสระว่ายน้ำอย่างเดียว
อู๋ นวพล : ช่วงสองสามเดือนที่แล้วก่อนที่จะมีโควิดมาระลอกใหม่ก็พาเขาไปเรียนว่ายน้ำเพราะว่าเราอยากให้เขามีทักษะในการเอาตัวรอด แต่เหตุผลจริงๆเลยคือ ภรรยาอยากถ่ายรูป (หัวเราะ)
เลี้ยงลูกในสไตล์ของเราเป็นแบบไหนในยุคแบบนี้
อู๋ นวพล : ด้วยความที่เขายังอายุยังน้อยในตอนนี้ แต่ผมก็คิดว่าจะเลี้ยงเขาให้ลุยๆและเผชิญได้ทุกรูปแบบ ไปได้ทุกที่ และจะสอนให้เขาคบเพื่อนให้หลากหลายครับ
แล้วตอนนี้กับงานในวงการที่หลายคนมองแบบไม่มั่นคงไม่ชัวร์ อู๋ มองภาพของตัวเองยังไงบ้าง
อู๋ นวพล : ผมก็มีคิดอยู่เหมือนกันเพราะไหนจะโควิดอีก ปัญหาเยอะแยะไปหมดเลย ผมก็พยายามดูแลตัวเอง และงานที่ตัวเองได้รับอย่างงานละครเราก็จะทำให้เต็มที่ ถ้าวันหนึ่งงานมันไม่มี หรือว่ามีปัญหาอะไรจริงๆคงต้องกลับไปทำงานที่บ้าน
สามารถชมรายการ ต้มยำอมรินทร์ ย้อนหลังได้ทาง ยูทูป : https://youtu.be/TcxYZ9Z9n54