เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 22 ก.ค. 2564 พ.ต.อ.อิทธิพล เนตรไธสง ผกก.สภ.บ้านฝาง นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านฝาง,สภ.เมืองขอนแก่น และ บก.สส.ภ.4 ประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำการควบคุมตัว นายประสิทธิ์ จาลา อายุ 56ปี อยู่บ้านเลขที่107 ม.8 ต.พระลับ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น ที่ จ.126/2564 ลงวันที่14 ก.ค.2564 ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจรและฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการตาย จากโรงพยาบาลบ้านฝาง ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังก่อเหตุฆ่าแม่ค้าขายของชำ จ.ขอนแก่น โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำตัวผู้ต้องหาออกจากโรงพยาบาลบ้างฝาง ในสภาพอ่อนแรง ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องหิ้วปีกและประคองตัวไว้โดยตลอด โดยนำตัวไปทำแผนยังจุดแรกที่บริเวณริมถนนศรีจันทร์ ใกล้ปากทางเข้า ซ.ศรีจันทร์ 39 ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านของผู้ต้องหาประมาณ 1 กม. ซึ่งเป็นจุดที่ผู้ต้องหาขับขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านมานั่งรอผู้เสียชีวิตมารับ เพื่อไปซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วยกัน เมื่อทั้งสองเจอกันจึงคุยกันเรื่องซื้อสินค้า ซึ่งจุดนี้ได้บอกผู้ตายว่า จะพาไปรับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จะมีเอเย่นต์มาส่งให้ริมถนน บ.เหล่าโพนทอง ต.บ้านหว้า อ.เมือง จ.ขอนแก่น จากนั้นผู้ได้ขับรถแทนผู้เสียชีวิต และพาไปจุดนัดรับสินค้า จากนั้นในจุดที่สองเป็นจุดที่ผู้เสียชีวิตนั่งอยู่เบาะหน้าข้างคนขับ โดยผู้ต้องหาได้เปลี่ยนไปนั่งที่แคปหลังเบาะคนขับและ ได้ใช้สายรัดเข็มขัดนิรภัยรถยนต์ที่ประตูด้านซ้ายรัดคอนางกันนิกาก็ขาดใจตายคามือ จากนั้น ผู้ต้องหาได้ขับรถตระเวนทิ้งศพ จนไปถึงบริเวณจุดทิ้งศพที่บริเวณป่าละเมาะข้างไร่มันสำปะหลัง ในพื้นที่ บ.เหล่า ต.บ้านเหล่า อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น จุดที่3 คือจุดที่ผู้ต้องหา นำรถยนต์กระบะโตโยต้า สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน ผจ-4512 นครปฐม มาจอดที่หน้าร้านกระจก พื้นที่บ้านสะอาด ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่น จุดที่ผู้ต้องหานำรถมาขายให้กับขบวนการโจรกรรมรถ พ.ต.อ.อิทธิพล เนตรไธสง ผกก.สภ.บ้านฝาง กล่าวว่า หลังจากรับตัวผู้ต้องหาออกจาก รพ.ตาก เพื่อมาดำเนินคดีที่ขอนแก่น จากการก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์หญิงอายุ 44 ปี โดยเมื่อควบคุมตัวผู้ต้องหา มาถึง อ.บ้านฝาง ผู้ต้องหามีร่างกายอ่อยเพลีย จึงต้องเข้ารักษาตัวที่รพ.บ้านฝาง และแพทย์ตรวจดูอาการและให้ยาแล้วอาการดีขึ้น อนุญาตให้นำตัวผู้ต้องหา ออกมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพได้ "เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวผู้ต้องหาไปทำแผนในจุดสำคัญ3 จุด คือจุดนัดพบกัน จุดลงมือฆ่าและจุดทิ้งศพคนตาย ซึ่งทุกจุดทำตามคำรับสารภาพของผู้ต้องหา ในส่วนของอาการป่วยจากการกินยาฆ่าตัวตายของผู้ต้องหานั้น จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ต้องหารู้ว่าตำรวจติดตามจับกุมตัว และกลัวความผิดจึงฆ่าตัวตายหนีความผิด ด้วยการดื่มน้ำยาล้างห้องน้ำ แต่ไม่ตาย ทั้งยังสารภาพว่า การลงมือฆ่าผู้เสียชีวิตในครั้งนี้ ไม่มีใครร่วมคิดวางแผนหรือร่วมลงมือ โดยยอมรับว่าทำเองคนเดียว ส่วนมูลเหตุของการฆ่าชิงทรัพย์ รับสารภาพว่า เพราะมีหนี้สินล้นพ้นตัว ไม่มีเงินใช้หนี้ เห็นผู้ตายพกเงินติดตัวจำนวนมาก จึงลงมือฆ่า เพื่อเอาเงินสดไปใช้หนี้ และเอารถไปขาย เอาเงินมาใช้หนี้" ผกก.สภ.บ้านฝาง กล่าวต่ออีกว่า ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ไม่ได้วางแผนฆ่า และไม่เคยคิดจะฆ่า เพราะผู้เสียชีวิตคือเพื่อนสนิทที่คุยได้ทุกเรื่องและเป็นเพื่อนร่วมวงพนัน แต่เมื่อถูกทวงหนี้ ก็ไม่มีทางออกจึงตัดสินใจฆ่าชิงทรัพย์เพื่อนตัวเอง และเอารถยนต์ไปส่งให้เพื่อนขายต่อ เพื่อเอาเงินมาใช้หนี้ และหลบหนีไป ซึ่งในการก่อเหตุครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจทำแผนตามคำรับสารภาพของผู้ต้องหา แต่ถ้าผลการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์มีหลักฐานถึงใครอีกก็จะมีการสืบสวนจับกุมมาดำเนินคดีเช่นกัน "ส่วนหนี้สินของผู้ต้องหานั้น จากการสอบสวนทราบว่า เคยเช่ารถตู้มาขับรับจ้าง แล้ว เงินขาดมือเพราะเสียพนันไฮโล จึงเอารถตู้ที่เช่ามาไปจำนำร่วมแสนบาท เมื่อถึงกำหนดส่งคืนรถตู้ไม่มีเงินไปไถ่ถอน เจ้าของรถก็ทวงรถ ยืมเงินใครก็ไม่ได้ ถึงทางตันจึงตัดสินใจฆ่าชิงทรัพย์เพื่อนตัวเองดังกล่าว ซึ่งภายหลังการทำแผนเสร็จสิ้น พนักงานสอบสวนจะได้นำตัวผู้ต้องหาส่งฝากขังในเรือนจำจังหวัดขอนแก่นทันที โดยตลอดระยะเวลาที่ทำแผน ผู้ต้องหาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจหิ้วปีกลงจากรถ หิ้วปีกเดิน ผู้ต้องหาทำได้เพียงพยักหน้าและชี้นิ้วในจุดที่ตัวเองก่อเหตุ โดยในจุดทิ้งศพผู้ตาย มีลูกสาว ปู่ และญาติพี่น้องคนตายมารอดูการทำแผน เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่หิ้วปีกผู้ต้องหาลงจากรถ ต่างส่งเสียงตะโกนด่าลั่นไปทั้งป่า เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้าควบคุมเอาไว้ และเร่งทำแผนให้เสร็จสิ้น เมื่อเรียบร้อยแล้ว รีบนำผู้ต้องหาออกจากพื้นที่ทันที" ขณะที่ น.ส.พัชราภรณ์ คำค้อ 20 ปี ลูกสาวผู้ตาย กล่าวว่า ดีใจที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ต้องหาได้และนำตัวมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ แต่ญาติพี่น้องยังไม่เชื่อว่าผู้ต้องหาจะลงมือทำเพรียงคนเดียว อยากให้ตำรวจทำการสืบสวนเพิ่มเติม หาคนผิดมารับทาตามกฎหมาย คนร้ายฆ่าคนตายได้ ก็ขอให้รับโทษประหารตายไปเลย ด้านนายคำบุญ พวงเกตุ 58 ปี พ่อปู่คนตาย กล่าวว่า ยังไม่เชื่อว่าผู้ต้องหาทำคนเดียว และไม่เชื่อว่าผู้ต้องหาจะกล้าลงมือฆ่าคนตาย เพราะรู้จักกับผู้ต้องหาเป็นอย่างดี ตั้งแต่เด็กจนถึงขณะนี้ แม้แต่ปลาผู้ต้องหายังไม่กล้าฆ่ากิน จะมีใจกล้าฆ่าคนตายได้อย่างไร จึงไม่เชื่อว่าผู้ต้องหาลงมือทำคนเดียว