ชลประทานมั่นใจพายุโซนร้อน "เจิมปากา" ไม่กระทบต่อปริมาณเก็บกักน้ำใน 3 เขื่อนภาคอีสานตอนกลาง เนื่องจากยังสามารถรับน้ำได้อีกรวมกว่า 3,000 ล้าน ลบ.ม. เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 22 ก.ค.2564 นายศักดิ์ศิริ อยู่สุข ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 6 เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศเตือนฉบับที่ 2 เรื่อง พายุโซนร้อน “เจิมปากา” เคลื่อนขึ้นฝั่งที่ประเทศจีนตอนใต้ ในช่วงกลางสัปดาห์นี้ ซึ่งจะส่งผลต่อลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ของไทย และอ่าวไทย ซึ่งจะทำให้เกิดฝนตกร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ขณะที่พื้นที่ภาคอีสานตอนบนคาดการณ์ว่าจะมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 – 70 ของพื้นที่ ซึ่งขณะนี้สำนักงานชลประทานที่ 6 ได้ตรวจสอบสถานการณ์น้ำในเขื่อนในหลัก 3 เขื่อนในพื้นที่ภาคอีสานตอนกลาง พบว่า เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น มีปริมาณน้ำเก็บกัก 840 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็นร้อยละ 34 โดยมีน้ำไหลเข้าประมาณ 10 ล้าน ลบ.ม. และระบายออก 7 ลบ.ม จัดอยู่ในเกณฑ์ปกติ " เขื่อนลำปาวมีปริมาณน้ำเก็บกัก 714 ล้าน ลบ.ม.หรือร้อยละ 36 มีน้ำไหลเข้า 2 ล้าน ลบ.ม.ระบายออก 3 ล้าน ลบ.ม.อยู่ในเกณฑ์ปกติ และเขื่อนจุฬาภรณ์ มีปริมาณน้ำเก็บกัก 115 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 70 อยู่ในเกณฑ์เฝ้าระวัง ซึ่งหากรวมทั้ง 3 เขื่อน ตามแผนการบริหารจัดการน้ำพบว่าทั้ง 3 เขื่อน ยังคงมีพื้นที่รับน้ำได้มากกว่า 3,300 ล้าน ลบ.ม.จึงมั่นใจว่าพายุ “เจิมปากา” จะไม่กระทบต่อเขื่อนหลักในพื้นที่และจะเติมน้ำในความจุอ่างของเขื่อนหลักและเขื่อนรองในพื้นที่ภาคอีสานได้อีกจำนวนมาก" ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 6 กล่าวต่ออีกว่า เขื่อนจุฬาภรณ์ขณะนี้มีปริมาณน้ำอยู่ที่ร้อยละ 70 ของความจุอ่าง กรมชลประทานจึงได้ร่วมกับคณะกรรมการบริหารจัดการนำในพื้นที่และมีมติพร่องน้ำจากเขื่อนจุฬาภรณ์ลงอ่างเก็บน้ำห้วยกุ่มเพื่อระบายลงสู่ลุ่มน้ำพรม-เชิญ ซึ่งลำน้ำทั้ง 2 นี้ สามารถรับน้ำได้อีกจำนวนหนึ่งเพื่อที่จะระบายลงมาเก็บที่เขื่อนอุบลรัตน์ รองรับหากเกิดกรณีฝนตกต่อเนื่องในพื้นที่ ตามแผนบริหารจัดการน้ำต่อไป