แต่ถือว่าเป็นรายแรกที่เสียชีวิต จากที่มีการฉีดวัคซีนสลับชนิดมากกว่า 84,000 ราย คิดเป็นอัตรา 1 ในแสนของผู้ฉีดวัคซีน ทั้งนี้จะจะรายงานสาเหุการตายอีกครั้ง แต่ยืนยันว่าวัคซีนทั้ง 2 ตัวที่ฉีดในประเทศไทยนั้น เป็นวัคซีนที่ได้พิสูจน์แล้วว่ามีความปลอดภัยสูง วันที่ 21 ก.ค. 2564 ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีพบผู้เสียชีวิตภายหลังรับวัคซีนโควิดเข็มที่ 2 ว่า สำหรับเหตุการณ์นี้มีการรายงานพบ ผู้หญิงอายุ 39 ปี อยู่จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้ฉีดวัคซีนโควิด-19 ซึ่งเป็นการฉีดเข็มที่ 2 และเสียชีวิตเมื่อวานนี้ ต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัว ทั้งนี้ผู้เสียชีวิตมีอาชีพรับราชการเป็นครู มีโรคความดันโลหิตสูงอยู่เดิม มีค่า BMI 31 และรายนี้มีประวัติฉีดวัคซีน 2 ครั้ง โดยครั้งแรกเป็นการฉีดวัคซีนซิโนแวค ตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย. 2564 และครั้งที่สอง ฉีดวัคซีนแอสตราเซนเนกาเมื่อวันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่กระทรวงสาธารณสุข โดยคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ และคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ได้พิจารณาข้อมูลผลการศึกษาระดับภูมิคุ้มกันที่ให้มีการฉีดชนิดเชื้อตาย และไวรัล เวคเตอร์ พบว่า จะสร้างภูมิคุ้มกันเร็วภายใน 2 สัปดาห์ในเข็มที่สอง อย่างไรก็ตามจนถึงขณะนี้มีการฉีดวัคซีนสลับชนิดมากกว่า 84,000 ราย โดยกรณีครูอายุ 39 ปี เป็นเป็นรายแรกที่มีการเสียชีวิต คิดเป็นอัตรา 1 ในแสนของผู้ฉีดวัคซีน ซึ่งยังต้องหาสาเหตุต่อไป โดยแพทย์ได้มีการตรวจเบื้องต้นและมีการชันสูตรที่โรงพยาบาลพระจอมเกล้าจะทราบผลในเร็ววันนี้ ขณะนี้จึงยังไม่สรุปว่ามีความเกี่ยวข้องหรือไม่เกี่ยวข้องกับวัคซีน ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความชัดเจนจะได้นำข้อมูลที่ตรวจสอบแล้ว และมีข้อมูลเพียงพอมานำเสนอ แต่ที่จะสรุปเรื่องต้นคือวัคซีนทั้ง 2 ตัวที่ฉีดในประเทศไทยนั้น เป็นวัคซีนที่ได้พิสูจน์แล้วว่ามีความปลอดภัยสูงจากการที่เราฉีดมาก 10 กว่าล้านโดส