สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า องค์การแรงงานระหว่างประเทศ หรือไอแอลโอ ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์กรชำนัญพิเศษของสหประชาชาติ รายงานสถานการณ์แรงงานในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระหว่างช่วงปี 2021 – 2022 (พ.ศ. 2564 – 2565)
โดยรายงานของไอแอลโอ เปิดเผยว่า ผู้หญิงวัยทำงานได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มากกว่าผู้ชาย ทั้งในด้านการเสี่ยงที่จะตกงาน ที่ปรากฏว่า ผู้หญิงถูกเลิกจ้างราวร้อยละ 4.2 ส่วนผู้ชายตกงานราว 3 การได้ค่าจ้างลดลง การทำงานที่หนักกว่าผู้ชายแต่ไม่ได้ค่าแรงเพิ่มขึ้น รวมถึงโอกาสที่จะได้งานใหม่ก็น้อยกว่าผู้ชาย ที่ร้อยละ 43.2 ต่อร้อยละ 68.6
พร้อมกันนี้ รายงานของไอแอลโอ ยังระบุด้วยว่า ผู้หญิงต้องทำงานหนักขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับผู้ชายในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง งานที่เกี่ยวกับการดูแลบ้าน การเลี้ยงดูบุตร การสอบเด็กเล็ก ที่ต้องตกเป็นภาระของผู้หญิงตามค่านิยมของสังคม และจากการที่บรรดาโรงเรียน รวมถึงสถานดูแลเด็กเล็ก ต้องปิดตัวลงในช่วงโรคระบาดดังกล่าว
นอกจากนี้ รายงานของไอแอลโอ ยังเผยอีกว่า ผู้หญิงมีอัตราความเสี่ยงติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มากกว่าผู้ชายหลายเท่า จากการที่ผู้หญิงมีอาชีพอยู่ในด่านหน้าในการเผชิญกับโรคโควิด เช่น หมอ และพยาบาล ซึ่งผู้หญิงมีอัตราส่วนทำอาชีพนี้มากกว่าผู้ชายถึงร้อยละ 70 – 75 รวมถึงอาชีพบริการ เช่น พนักงานในร้านซูเปอร์มาร์เก็ต ก็เป็นผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย
รายงานของไอแอลโอ ยังได้เสนอแนะให้รัฐบาลของประเทศต่างๆ รับรู้ถึงสถานการณ์ข้างต้น และสนับสนุนนโยบายที่ให้เกิดการเท่าเทียมกันระหว่างพนักงานชาย-หญิงให้มากที่สุด