วันที่ 20 กรกฎาคม พ.ต.อ.เสมอ อยู่สำราญ ผกก.สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ พร้อม เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง(ตม.)ประสานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขตรวจหาเชื้อโควิด-19 จากนั้นร่วมสอบปากคำชาวพม่าลักลอบหนีเข้าเมือง 11 คน เป็นชาย 9 คน หญิง 2 คน อายุระหว่าง 20-40 ปี พร้อมคนนำทางชายอายุ 56 ปี ที่บริเวณจุดตรวจบ้านมะขามโพรง หมู่ 9 ต.เกาะหลักช่องทางธรรมชาติหุบตาหลี เส้นทางไปด่านสิงขร หลังจากผู้ใหญ่บ้าน พร้อมเจ้าหน้าที่ ชรบ. เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรีร่วมกันจับกุมชาวพม่าพร้อมคนนำทางขณะเดินมาฝั่งไทย
สอบสวนทราบว่าชาวพม่า 11 คน เดินทางมาจากเมาะลำไย โดยจ่ายค่านายหน้าหัวละ 10,000 บาท จากนั้นพักรอที่บ้านพักใกล้ใกล้หอนาฬิกา หมู่บ้านมูด่อง ตรวข้ามด้านสิงขร มีนายมะระยี อายุ 28 ปี เป็นผู้ดูแล เมื่อได้รับใบสั่งจากนายทุนฝั่งไทย จึงให้คนนำทางพาเดินข้ามสันแดนเข้าไทย มีค่าใช้จ่ายหัวละ 500 บาท จากนั้นโทรศัพท์ติดต่อให้นายหน้าฝั่งไทยนำรถมารับ เพื่อเดินทางไปโรงงานชำแหละไก่ที่ จ.สมุทรปราการ แต่จากการตั้งด่านตรวจเข้มงวด ทำให้คนขับรถไม่สามรถเดินทางไปรับชาวพม่าที่จุดนัดหมาย
นายแวมิ อายุ 56 ปี ชาวพม่า คนนำทางสารภาพว่า รับจ้างจากนายหน้าชาวพม่าที่หมู่บ้านมูด่อง ให้มาส่งแรงงานเถื่อนตามที่นัดหมาย ทำมาแล้ว 5 ครั้ง เคยถูกจับ 3 ครั้ง และก่อนจะนำแรงงานเถื่อนเข้าไทย ต้องมีการจ่ายส่วยให้เจ้าหน้าที่พม่าอีกหัวละ 500 บาท
นายประจักษ์ สนสนิท ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 บ้านมะขามโพรง กล่าวว่า ก่อนจับกุมได้ปลอมเป็นคนเลี้ยงวัวใกล้ช่องทางธรรมชาติ ต่อมาพบชาวพม่าเดินลงมาจากภูเขา จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ ชรบ. แสดงตัวจับกุมได้ทั้งหมด 11 คน ส่วนคนนำทางวิ่งหลบหนีกลับไปฝั่งพม่า แต่ตนพยายามจับกุมเมื่อจวนตัว คนนำพาได้ใช้มีดง้าวที่พกติดตัวออกมาพร้อมข่มขู่หากจับกุมจะใช้มีดฟัน จึงใช้อาวุธปืนยิงขู่กระทั่งยอมมอบตัว