แรงงาน และ ปชช.ที่หนีโควิดจากจังหวัดต่างๆ กลับมาใช้ชีวิตยังบ้านเกิดที่บุรีรัมย์ พากันแห่ซื้อต้นไม้ปลูกตามบ้านและสวนคึกคัก เพื่อหวังนำผลผลิตไปบริโภคลดรายจ่าย เหลือก็ขายสร้างรายได้เข้าครัวเรือน ส่งผลให้ผู้มีอาชีพเพาะพันธุ์กล้าไม้จำหน่ายมีรายได้วันละกว่า 1 หมื่นบาท
วันนี้(20 ก.ค.64) ช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ระลอกใหม่ อาจจะส่งผลกับผู้ประกอบธุรกิจต่างๆ รวมถึงอาชีพค้าขายที่ดูจะเงียบเหงา เพราะไม่สามารถค้าขายได้เหมือนเดิม แต่กลับมีอาชีพหนึ่ง ที่ดูเหมือนว่าช่วงวิกฤตโควิดจะเป็นโอกาสดีของพวกเขา นั่นคือ อาชีพเพาะพันธุ์กล้าไม้ขาย เนื่องจากช่วงนี้ผู้ที่ทำงานต่างจังหวัดก็ทยอยเดินทางกลับบ้าน ส่วนคนที่กักตัวเองอยู่บ้านก็หันมาทำไร่ทำสวนมากขึ้น
ส่งผลให้ร้านเพาะพันธุ์กล้าไม้จำหน่าย ที่บริเวณริมถนนทางหลวงหมายเลข 348 ช่วงบ้านน้อยสะแกกวน ต.ส้มป่อย อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ได้มีลูกค้ามาเลือกซื้อพันธุ์กล้าไม้ไปปลูกคึกคักกว่าช่วงปกติ ซึ่งส่วนใหญ่ลูกค้าจะเลือกซื้อไม้ผล เช่น ต้นทุเรียนหมอนทอง ขนุน มะม่วง มะละกอ กล้วย สะตอ สะเดาหวาน หรือไม้ผลชนิดอื่นที่สามารถให้ผลผลิตนอกฤดูกาลได้ รวมไปถึงพืชผักชนิดต่างๆ
โดยลูกค้าที่ซื้อไปปลูกส่วนใหญ่ ต่างบอกว่า ที่หันมาปลูกพืชผัก และผลไม้ช่วงนี้ก็เพื่อจะเก็บผลผลิตไปบริโภคลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน หากเหลือก็ขายสร้างรายได้ช่วงโควิดที่ว่างงานด้วย ช่วงนี้จึงส่งผลดีกับผู้มีอาชีพเพาะพันธุ์กล้าไม้จำหน่าย
นายคำสิงห์ รุ่งพิรุณ เจ้าของร้านไม้ดอกไม้ประดับ “เจ๊เขียดต้นกล้าสวย” บ้านน้อยสะแกกวน กล่าวว่า ช่วงสถานการณ์โควิดระบาดทำให้หลายคนกลับมาใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านมากขึ้น เพื่อหนีความแออัดเพราะเชื่อว่าอากาศที่ถ่ายเทจะปลอดภัยกว่า ทำให้คนที่กลับมาอยู่บ้านหันมาทำไร่ทำสวน จึงส่งผลดีกับพ่อค้าแม่ค้าที่จำหน่ายพันธุ์กล้าไม้ต่างๆ มีรายได้วันละไม่ต่ำกว่า 10,000 บาท ถือว่าเป็นช่วงโอกาสของผู้มีอาชีพเพาะพันธุ์กล้าไม้จำหน่าย โดยพันธุ์ไม้ที่ได้รับความสนใจจากลูกค้ามากที่สุด คือ ต้นทุเรียน รองลงมาก็เป็นขนุน สะตอ และ สะเดาทวาย