“ยุทธพงศ์” ชี้ นายกฯ ยอมถอดงบเรือดำน้ำ เหตุโดนกดดันจากสังคม อ้าง มีหลักฐานมัดจัดซื้อทุจริต เผย กองทัพมีโครงการอีกเพียบผลาญงบประมาณช่วงปชช.ลำบาก
เมื่อวันที่ 19 ก.ค.ที่รัฐสภา นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการพิจารณางบประมาณรายจ่ายปี 2565 กล่าวถึงการพิจารณางบประมาณในวันนี้ ว่า เป็นการพิจารณางบประมาณในส่วนของกระทรวงกลาโหม โดยสิ่งที่ต้องจับตาคือการพิจารณาการจัดซื้อเรือดำน้ำจีน ราคา 22.5 หมื่นล้านบาท และทราบว่าภายหลังพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งให้กองทัพเรือถอดจากการขออนุมัติงบประมาณ ด้วยเพราะสถานการณ์วิกฤตเศรษฐกิจจากโควิด-19 และเนื่องจากจนแต้มต่อกระแสสังคมกดดัน
“การจัดซื้อเรือดำน้ำนั้นมีความไม่โปร่งใส เนื่องจากไม่ได้เป็นการจะซื้อแบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจี ซึ่งผมีหลักฐานความไม่ชอบมาพากลหรือการทุจริต ซึ่งเป็นจดหมายของอดีตผู้บัญชาการทหารเรือ พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ที่เมื่อก่อนวันที่ 30 กันยายน 2563 ได้ส่งหนังสือไปยังประเทศจีนเร่งรัดให้มีการลงนามสัญญาการจัดซื้อเรือดำน้ำลำ2-3 ที่มีความเร่งรีบผิดปกติ ที่ให้ระดับข้าราชการมาลงนาม แต่ไม่ใช่ฝ่ายบริหารของทางการจีน” นายยุทธพงศ์ กล่าว และว่า นอกจากงบจัดซื้อเรือดำน้ำแล้ว ยังมีโครงการอื่นๆที่กองทัพขอรับงบประมาณเป็นจำนวนมากในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจ เช่น โครงการอากาศยานไร้คนขับ บินชายฝั่ง โครงการก่อสร้างศูนย์วิทยุควบคุมเรือดำน้ำอีก 300 ล้านบาท เรือเอนกประสงค์วงเงินกว่า 4 พันล้านบาท ซึ่งของบปี 2565 จำนวน 800 ล้านบาท ซึ่งไม่สอดคล้องกับสถานการณ์วิกฤตเศรษฐดิจโควิดในปัจจุบัน
นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า ขอตั้งข้อสังเกตถึงคุณภาพของเรือดำน้ำที่ซื้อมาจากประเทศจีน และเชื่อมโยงไปยังคุณภาพการผลิตวัคซีนของจีน ยืนยันว่ากรรมาธิการสัดส่วนพรรคการเมืองฝ่ายค้าน ไม่เพียงแค่ตรวจสอบงบประมาณของกองทัพเรือเท่านั้น แต่จะพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบในงบประมาณของกองทับบกและกองทัพอากาศ ว่างบประมาณของกระทรวงกลาโหมในการจัดซื้ออาวุธยุทธโธปกรณ์ที่ยังไม่จำเป็นในสถานการณ์ปัจจุบันควรที่จะตัดทิ้งออกไป ไม่เพียงแค่ชะลอ