วันที่ 18 ก.ค.64 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร.เปิดเผยถึงความคืบหน้าสถานการณ์การชุมนุมว่า เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. พ.ต.อ.ทศพล อำไพพิพัฒน์กุล ผกก.สน.สำราญราษฎร์ พร้อมกับ พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผกก.สน.ชนะสงคราม ร่วมกันประกาศให้กลุ่มผู้ชุมนุมได้รับทราบว่าการชุมนุมนั้น เป็นการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย เป็นการชุมนุมที่ฝ่าฝืน พ.ร.ก.และผิดกฎหมายหลายบท
ต่อมาเวลาประมาณ 13.30 น. ผกก.สน.สำราญราษฎร์ และผกก.ชนะสงคราม ประกาศย้ำว่าเป็นการชุมนุมที่ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ เป็นการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย กระทั่งเวลาประมาณ 16.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมได้เคลื่อนตัวจากบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยมุ่งหน้ามายังสะพานผ่านฟ้า และพยายามที่จะฝ่าแนวต้านของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แม้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประกาศแจ้งเตือนในหลายครั้งแล้วว่าเป็นการชุมนุมที่ผิดกฎหมายไม่สามารถกระทำได้ รวมทั้งการจัดกิจกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นเป็นการจัดกิจกรรมที่สุ่มเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อโรค
พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวอีกว่า กลุ่มผู้ชุมนุมได้พยายามฝ่าแนวของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พยายามตัดแนวลวดหนาม ฝ่าแนวเหล็กแผงกั้น เมื่อไม่เชื่อฟัง เจ้าหน้าที่จึงได้ฉีดน้ำ โดยใช้รถฉีดน้ำแรงดันสูงและมีการใช้กระสุนยางตามขั้นตอนตามยุทธวิธีของตำรวจ ในการเข้าดำเนินการบังคับใช้กฎหมายตามขั้นตอนปกติ หลังจากนั้นเมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมไม่สามารถที่จะฝ่าเข้ามาในบริเวณถนนราชดำเนินได้ กลุ่มผู้ชุมนุมได้มุ่งหน้ามายังบริเวณแยกนางเลิ้ง และเคลื่อนที่มายังบริเวณเชิงสะพานชมัยมรุเชฐ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการประกาศแจ้งเตือนช่วงเวลาประมาณ 16.40 น. เป็นต้นมา
กระทั่งเวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจมีความจำเป็นที่ต้องดำเนินการใช้น้ำฉีดรวมถึงดำเนินการ เพื่อจะระงับยับยั้งไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมได้ฝ่าแนวของตำรวจเข้ามาในบริเวณเชิงสะพานชมัยมรุเชฐ และบริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจเริ่มใช้น้ำฉีดและใช้แก๊สน้ำตา รวมถึงมีการใช้กระสุนยาง ซึ่งสถานการณ์ในเวลา 18.00 น. บริเวณเชิงสะพานชมัยมรุเชฐ ยังคงมีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบานปลาย โดยกลุ่มผู้ชุมนุมยังพยายามฝ่าแนวของตำรวจ และพยายามขว้างปาสิ่งของต่างๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจมีความจำเป็นที่ต้องบังคับใช้กฎหมาย