เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2564ตามที่แนวร่วมราษฎร กว่า 15 กลุ่มถฝ นำโดย กลุ่มเยาวชนปลดแอก ประกาศเชิญชวนประชาชน ได้ร่วมชุมนุมขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยเริ่มต้นเวลา 13.50 น. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนินกลาง กรุงเทพฯ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการรวมตัว เพื่อจัดขบวนประชาชน ก่อนเคลื่อนไปยังทำเนียบรัฐบาล โดยมีกลุ่มนักกิจกรรมเพื่อประชาธิปไตย เดินทางมารอร่วมขบวน อาทิ กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย DRG, ขบวนการริมสระ, คณะประชาธิปไตยเพื่อความหวัง DemHope, เครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตย, กลุ่มทะลุฟ้า, เฟมินิสต์ปลดแอก, ภาคีบุคลากรสาธารณสุข, เยาวชนปลดแอก, ราษฎรมูเตลู, ศาลายาเพื่อประชาธิปไตย, สหภาพคนทำงาน, สหภาพไรเดอร์, SUPPORTER THAILAND, We Volunteer หรือ วีโว่ และ ราษฎรออฟโรด
แต่ละกลุ่ม แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ อาทิ ปูผ้าหลากสี วางหุ่นศพ รถขนหุ่นจำลอง พล.อ.ประยุทธ์ รถจำลองศพแรงงาน ของกลุ่มสหภาพคนทำงาน
ขณะที่ประชาชน ส่งต่อหุ่นจำลองศพ จำนวนกว่า 2,000 หุ่น เพื่อถือ หิ้ว พาดขณะร่วมขบวน ส่งสัญญะไปถึงรัฐบาล ว่ามีประชาชนตายจำนวนมาก จากการบริหารงานด้านโควิดและวัคซีน ที่ล้มเหลว พร้อมยืนยัน 3 เรียกร้อง ได้แก่
1. พล.อ.ประยุทธ์ต้องลาออกโดยไม่มีเงื่อนไข
2. ปรับลดงบสถาบัน-กองทัพ สู้โควิด
3. เปลี่ยนวัคซีนหลัก เป็นชนิด mRNA
เวลา 14.20 น. กลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอก ทำการแสดง สีดาลุยไฟ บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
เวลา 14.27 น. นายธัชพงศ์ แกดำ หรือ บอย เรามาอย่างสันติ ประชาชนมาทวงข้อเรียกร้องของเรา 1.ประยุทธ์ ต้องลาออกโดยไม่มีเงื่อนไข
2.ต้องตัดลบงบสถาบัน มาสู้โควิด
3.จะต้องเปลี่ยนวัคซีน ให้เป็น mRNA ขบวนด่านหน้าขอให้เป็นหน้าที่ของการ์ด ที่มีผ้่าพันคอสีเขียว ไม่ว่าเกิดเหตุอะไร หรือมีอะไรมาขวางกั้น ขอให้เป็นหน้าที่การ์ดที่มีสัญลักษณ์ชัดเจน นี่คือกติการ่วมกัน
ขอให้รอฟังสัญญาณเคลื่อนขบวน ตอน 15.00 น. โดยประชาชน ปรบมือแสดงความเห็นด้วย ขณะที่รถจักรยานยนต์ และรถยนต์ บีบแตรลากยาว
บรรยากาศเวลา 14.30 น. ประชาชนยังคงตั้งขบวน รอผู้เดินทางมาสมทบ บางส่วน นั่ง และนอนลงกับพื้น ทั้งนี้ ผู้ชุมนุมได้นำสติ๊กเกอร์ ศพจำลอง หรือข้อความมาปิดป้ายทะเบียน เพื่อป้องกันการถูกดำเนินคดี ซึ่งมีข้อความหลากหลาย อาทิ "ศบค. ไทยรู้สู้โควิด 141" "อยากให้รักมั่นคง เหมือนหมอยงรักซิโนแวค" ไปจนถึง หมุดคณะราษฎร ขณะที่ประชาชนกลุ่มเดินเท้า ยืนชูผืนผ้า ธง และป้ายข้อความขับไล่รัฐบาล
อย่างไรก็ดี การชุมนุมครั้งนี้ มีประชาชนเข้าร่วมทุกช่วงวัย ไปจนถึง ชาวต่างชาติ สามเณร และพระสงฆ์ บางส่วนนำสินค้า อาหาร และสัญลักษณ์การชุมนุมมาวางจำหน่าย
เวลา 14.35 น. ประชาชนบางส่วน เริ่มนำสีสเปรย์มาพ่นที่พื้น ความว่า "ประยุทธ์ออกไป" "ภูมิใจตู่" mRNA อยู่ไหน ด้านประชาชนคนเสื้อแดง เปิดหมอลำ โยกย้ายตามจังหวะ
เวลา 14.47 น. พิธีกร กล่าวว่า แดดร่มลมตก ถึงเวลาแล้ว อีก 10 นาที ขอให้ยึดสันติ อย่าทำอะไรเจ้าหน้าที่ ท่ามกลางฝนได้โปรยลงมา
เวลา 14.57 น. ประชาชนสวมชุดกันฝน และกางร่ม นายธัชพงศ์ กล่าวว่า ถึงฝนจะตก ก็หยุดพวกเราไม่ได้ เราจะไปเปลี่ยรแปลงสิ่งเลวร้าน ที่ทำลายประชาชนมาอย่างยาวนาน พร้อมหรือยังที่จะสร้รงความเปลี่ยนแปลงไปด้วยกัน ประชาชนเบือกอะไรไม่ได้ วัคซีนเลือกไม่ได้ บอกให้เราทำตาม แต่รัฐไม่เคยทำตามเสียงของเราเลย เราจะไปบอก ว่าต้องฟังประชาชน
"เราไม่รู้ว่าจะต้องเจอกับอะไรข้างหน้า แต่เราทุกคนจัดสินใจมาด้วยความเสี่ยง เพราะอยู่ในบ้านก็จะตายเพราะโควิด ถ้าไม่หยุดรัฐบาลนี้" นายธัชพงศ์กล่าว
เวลา 15.10 น. ราษฎรนับถอยหลัง ก่อนบีบแตร และเคลื่อนขบวน บนถนนราชดำเนินกลาง มุ่งหน้าทำเนียบรัฐบาล อย่างช้าๆ ท่ามกลางฝนที่ยังคงปรอยลงมาอย่างต่อเนื่อง
จากนั้น มีการเปล่งเสียง "ประเทศนี้ เป็นของประชาชน" 3 ครั้ง
โดยหัวขบวนนำโดยการ์ดวีโว่ ตามด้วยรถปราศรัยคันที่ 1, แถวการ์ดวีโว่ ประชาชนเดินเท้า, รถปราศรัยคันที่ 2, ขบวนรถจักรยานยนต์ และ ขบวนรถยนต์ ตามลำดับ
เวลา 15.34 น. ขบวนยังคงติดอยู่บริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศ พิธีกรกล่าวว่า ทีมงานกำลังเจรจากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เราค้องยืนยันหลักการสันติ เป็นสิทธิของประชาชน ตามรัฐธรรมนูญ ด้านทีมงานนำน้ำดื่มเดินแจกจ่ายผู้ร่วมชุมนุม
"กว่าจะถึงทำเนียบ เราต้องเจอสิ่งกีดขวาง แต่อย่าให้เขาทำสำเร็จ ความรุนแรง จะต้องไม่เริ่มจากประชาชน" พิธีกรหญิงกล่าว
เวลา 15.37 น. "ทาทา" ผู้มีความหลากหลายทางเพศ กล่าวปราศรัย ถึงการบริหารงานล้มเลว ตั้งแต่โควิดระลอกแรก จนระลอก 3 พนักงานบริหาร สถานบันเทิง พี่น้องไรเดอร์ ไม่เคยสนใจ วัคซีน การตรวจโรค ประชาชนต้งเดินไปหาเอง
ด้าน นายธัชพงศ์ กล่าวปราศรัยบนรถขยายเสียงคันแรกอย่างต่อเนื่อง
เวลา 15.39 น. ประชาชนหลบรถพยาบาล
เวลา 15.57 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ประกาศว่า เรียนผู้ชุมนุม สื่อมวลชน ต่อไปนี้ จะเป็นการดำเนินการตามมาตรการที่เด็ดขาด หากมีการรุกแนว ของคุณที่เดินเท้ามา เราจะใช้กำลังตามสถานการณ์เท่านั้น ตามพื้นที่ควบคุมที่ได้ประกาศไว้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการตั้งแนวตำรวจ คฝ. 2 ชั้น โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ยอมให้ไปทางถ.ราชดำเนินนอก จึงมีการฉีดน้ำใส่สีไปยังผู้ชุมนุม ด้าน การ์ดวีโว่ พยายามเจรจากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
นายธัชพงศ์ขอให้ฟังการ์ดที่มีผ้าพันคอสีเขียว
การ์ด WeVo รื้อรั้วลวดหนาม และแผงกั้นออก
ประชาชนวิ่งหนีแก๊สน้ำตา กลับมาตั้งหลัก บางส่วนหลบบริเวณป้อมมหากาฬ บางส่วนมุ่งหน้าต่อบนถนนพิษณุโลก
เมื่อเวลา 16.05 น.กลุ่มขบวนรถจักรยานยนต์ประมาณ 40 คันได้เดินทางมาถึง เเยกนางเลิ้ง โดยได้ยกเเผงเหล็ก ออก เเละฝ่าเข้ามาถึงรั้วรวดหนาม โดยกำลังนำคีมตัดรั้วรวดหนามออก เพื่อเดินทางไปยังทำเนียบรัฐบาล
ในเวลาเดียวกัน การ์ดวีโว่ แนวหน้า วิ่งกลับมาขนโล่ และอุปกรณ์ โดยมีนายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือ ครูใหญ่ หัวหน้าพรรคก้าวล่วง ยืนอยู่บริเวณใกล้เคียง
ด้านประชาชน เปล่งเสียง 'วีโว่ วีโว่ วีโว่' เพื่อให้กำลังใจอย่างต่อเนื่อง
เวลา 16.08 น. ผบ.เหตุการณ์ กล่าวยืนยันว่า จะไม่กระทำการใดใด หากนั่งลง แล้วชุมนุมบริเวณแยกผ่านฟ้าลีลาศ ไม่เคลื่อนขบวนต่อไปยังถนนราชดำเนินใน
เวลา 16.11 น. ประชาชนนั่งลง เวลา 16.12 น. นายธัชพงศ์ ประกาศว่า มีการยิงกระสุนยาง
ประชาชนส่งเสียงโห่
จากนั้น เปลี่ยนเส้นทาง งมุ่งหน้าถนนนครสวรค์ เนื่องจากไม่สามรถเดินหน้าต่อไปบนถนนราชดำเนินในได้
เวลา 16.16 น. พิธีกรกล่าวว่า มี ประชาชนโดนยิงกระสุนยาง ที่ดวงตา บาดเจ็บ
พร้อมขอให้เดินทางไปด้วยกัน มีการใช้แก๊ส ใช้กระสุนยาง เขาแค่มาเรียกร้อง เป็นตัวแทนพ่อแม่เขาที่ตาย เขามาขอแค่ 3 ข้อ แต่เขาได้กระสุนยางยิงใส่ตา เราไม่อยากให้เกิดความสูญเสียอีกแล้ว
เวลาเดียวกันมวลชนฝ่าเเนวรั้วรวดหนามหน้า โรงเรียนราชวินิตมัธยม โดยมาถึงพณิชยการพระนคร ซึ่งมีเเนวขบวนเจ้าหน้าที่ คฝ. ซึ่งมีเเนวรั้วรวดหนามรถตู้ รถคุมผู้ต้องหา รถฉีดน้ำความดันสูง กั้นขบวนอยู่ โดยมีรถจักรยานยนต์ตามมาสบทบ ขึ้นเรื่อยๆพร้อมบีบเเตรดังสนั่น
16.27 น. คฝ.ฉีดน้ำ ผสมเเก๊สน้ำตา มวลชนถอยร่นมา หน้าโรงเรียนราชวินิต
โดยมีการฉีดน้ำผสมเเก๊สน้ำตาเรื่อยๆเมื่อมวลชนพยายาม เข้ารื้อเเนวกั้น ซึ่งกลิ่นสารเคมี คละคุ้ง จนผู้ที่อยู่ห่าง หลายร้อยเมตร เเสบตา
เมื่อเวลา 16.45น.ที่บริเวณเเยกนางเลิ้ง หน้า รร.ราชวินิตมัธยม มวลชนได้ทยอยเข้าพื้นที่ โดยเเกนนำได้ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียง ให้หยุดพักจัดขบวนสักครู่หนึ่ง ส่วนจะดำเนินการอย่างไรต่อนั้น จะขอฉันทามติจากพี่น้องร่วมขุมนุมที่กำลังทยอยเดินทางมาถึงพื้นที่ โดยได้มีการประกาศให้มีการเตรียมน้ำ ไว้ล้างหากโดนเเก๊สน้ำตาฉีด โดยทาง คฝ.ได้ประกาศว่าจากนี้จะดำเนินขั้นตอนจากเบาไปหาหนักขอให้สื่อมวลชน ระวังตัว
ตอนนี้การ์ดวีโว่ ที่พันผ้าพันคอสีเขียวตั้งเเถวเดินมุ่งไปเเนวหน้า โดยเเกนนำขอให้ ปชช.ถอยออกมาจากเเนวหน้า โดยพูดว่า การ์ดผ้าพันคอสีเขียวครับไม่รู้้วีโว่ป่าว ไม่ใช่ผู้ชุมนุมนะ ไม่ชัวร์ ว่าผู้ชุมนุมไหม แต่กลุ่มนี้เห็นตั้งใจเผามาก โยนข้ามรั้วหลายจุด
คฝ.ระดมฉีดน้ำผสม-แก๊สน้ำตาหนัก! ผู้ชุมนุมต้องถอยร่นลงมาถึงแยกนางเลิ้ง
เวลา 17.00 เศษน. เจ้าหน้าที่ได้มีการฉีดน้ำอีกครั้งหนึ่ง พร้อมกับมีเสียงคล้ายยิงปืนกระสุนยาง 2-3 นัดเจ้าหน้าที่ คฝ.ยังคงระดมฉีดน้ำเรื่อยๆ และเพิ่มระยะแรงดันน้ำให้ไกลขึ้น ซึ่งเป็นน้ำผสมแก๊สน้ำตา
ทำให้ผู้ชุมนุมตั้งแต่แนวการ์ดด้านหน้าต้องถอยร่นขบวนวิ่งหนีถอยหลังลงไปไกลถึงบริเวณแยกนางเลิ้ง ผู้ชุมนุมจำนวนหนึ่งมีอาการแสบตา ไอสำลัก แสบผิวหนัง ต้องใช้น้ำหรือน้ำเกลือในการล้างหน้าล้างคอและล้างตัว เเละถอยร่นมาอยู่ตรงเเยกนางเลิ้ง
เวลา 17.02 น. ที่ สะพานผ่านฟ้าลีลาศ เจ้าหน้าประกาศว่า จะมีการใช้แก๊สน้ำตา โดยประชาชนตะโกนด่าทอต่อเนื่อง และว่า ประชาชนเดือดร้อน ทีไฟไหม้โรงงานย่านกิ่งแก้ว เจ้าหน้าที่ไม่เห็นเอารถน้ำมาไวอย่างนี้ จนต่อมา มีการฉีดน้ำอย่างต่อเนื่อง จนประชาชนยังคงยืนด่าทอเจ้าหน้าที่
โดยประชาชนคนเสื้อแดง ขับรถกระบะแจกน้ำให้ประชาชนใช้ล้างตา
เวลา 17.06 น. ขบวนรถบรรทุก เคลื่อนผ่านถนนนครสวรรค์ พร้อมชู 3 นิ้ว มุ่งหน้าสมทบผู้ชุมนุม ที่ทำเนียบรัฐบาล
เวลา 17.08 น. ขบวนส่วนที่เหลือ ทยอยเคลื่อนตาม
ขณะเดียวกันมองจากถนนนครสวรรค์ ได้ยินเสียงดัง 2-3 นัดผู้ชุมนุมหน้ามัธยมราชวินิต ถอยร่นมายัง เเยกนางเลิ้ง เเกนนำประกาศประนามว่า เเก็สน้ำตาถูกโยนลงมาจากใน โรงเรียนมัธยมราชวินิต ซึ่งเป็นสถานศึกษารัฐไม่น่าใช่สถานที่นี้ ทำกับประชาชน โดยขอให้ปชช.ถอยมาอยู่ที่3 เเยกนำเลิ้ง พร้อมให้คัดกรองผู้ที่บาดเจ็บจากนั้นขอฉันทามติว่าจะดำเนินการอย่างไร ต่อไป
เวลา 17.15 น. ที่แยกจักรพรรดิพงศ์ มีการวางหุ่นศพเรียงบนรั้วลวดหนาม ขณะที่ประชาชนกลุ่มหนึ่งยืนตำหนิเจ้าหน้าที่ตำรวจ คฝ. อย่างต่อเนื่อง บางรายขับรถยนต์มาจอดลดกระจก กระตุ้นจิตสำนึกเจ้าหน้าที่
17.20 น.ผู้ชุมนุมกำลังทยอยเข้าพื้นที่เเยกนางเลิ้ง โดยมีการ์ดผู้ชุมนุมให้เปิดทางเพื่อให้ รถขนน้ำดื่ม เเละ จนท.ปฐมพยาบาลเข้าไปหาผู้ชุมนุมที่ถูกเเก็สน้ำตา
โดยเเกนนำประกาศว่า มีการสั่งห้ามเเพทย์พยาบาลอาสาเข้ามาพื้นที่ชุมนุม จึงขอให้ปชช.ที่ถูกเดก๊สน้ำตา ประเมิณตัวเอง ถ้าไม่ไหวให้ถอนได้เลย เเพทย์พยาบาบอ่สาในที่ชุมนุมมีจำนวนน้อยโดยคนที่จะขับรถยนต์กลับจะกลับไม่สามารถไปที่สะพานผ่านฟ้าได้ ให้ไปทางเส้นยมราช
เวลา 17.36 น. ที่แยกนางเลิ้ง ผู้สื่อข่างรายงานว่า แก๊สน้ำพัดมาตามลม ไปทางแยกนางเลิ้ง โดยประชาชนที่อยู่ในซอยพิษณุโลก 5 และ ซอย 9 เปิดบ้านให้ประชาชนเข้าไปล้างหน้า ล้างตา
ด้าน นายเจษฎา ศรีปลั่ง หรือ เจมส์ แกนนำคนรุ่นใหม่นนทบุรี กล่าวผ่านรถขยายเสียงว่า ขอให้ประชาชนร่วมกันเปิดบ้านให้ราษฎรเข้าไปล้างหน้า และให้ประชาชนที่ไม่มีอุปกรณ์ป้องกันตัว ถอยมาอยู่หลังแยกนางเลิ้ง ใครไม่ไหวสามารถเดินทางกลับได้
ขณะที่ประชาชนอีกกลุ่มหนึ่ง ขนน้ำลงจากรถ บริเวณซอยพิษณุโลก 5
ต่อมา เวลา 17.45 น. ขบวนรถบรรทุก เคลื่อนออกจากพื้นที่แยกนางเลิ้ง มุ่งหน้าแยกยมราช พร้อมบีบแตร ชู 3 นิ้ว ขณะที่ผู้ชุมนุมส่งเสียงเฮ และปรบมือ แสดงความนับถือ
17.50 น.บริเวณเเยกนางเลิ้ง เจ้าหน้าที่ยังยิงเเก๊สน้ำตา เเบบเว้นช่วง ซึ่งทางลมได้พัดเเก๊สน้ำตามาทางเเยกนางเลิ้ง เเกนนำมีการประกาศว่าคนได้รับบาดเจ็บตากเเก็สน้ำตา อย่าพามานั่งพักตรงบริเวณเเยกนางเลิ้ง เพราะลมพัดมาทิศทางนี้
เวลา 18.11 น. ที่แยกนางเลิ้ง รถปราศรัยของเครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตย เคลื่อนมาถึง พร้อม กล่าวปราศรัยโจมตีรัฐบาล
ขณะที่นักกิจกรรมกลุ่มหนึ่ง ทำการติดตั้งหุ่น พล.อ.ประยุทธ์ และ กีโยตินจำลอง ห่อนนำศพจำลองมาวาง
เวลา 18.12 น. มีการปาแก๊สน้ำตาอีกครั้ง ประชาชนถอยร่นมาทางแยกยมราช
เวลา 18.13 น. ประชาชนจุดไฟ ที่หุ่นจำลอง พล.อ.ประยุทธ์ กลางสี่แยกนางเลิ้ง ควันขโมง
โดยประชาชนต่างแห่บันทึกภาพ บางส่วนเดินหนี เนื่องจากแก๊สน้ำตาลอยมาในเวลาเดียวกัน
เวลา 18.15 น. ประชาชนยืนชู 3 นิ้ว พร้อมร้องเพลง Do you hear th people's song โดยสายตาเพ่งมองไปที่กองเพลิง
จากนั้น เปล่งเสียง "ศักดินาจงพินาศ ประชาราษฎร์จงเจริญ" พร้อมเพรียงกัน
เวลา 18.20 น. นายธัชพงศ์ กล่าวชี้แจงว่า
เวลา 18.21 น. มีเสียงดังคล้ายปะทัด 2 ครั้ง
เวลา 18.23 น. ขอให้ไปตั้งหลักแยกยมราชก่อน เนื่องจากจะมีการเสริม เจ้าที่ คฝ. มาจากแยกผ่านฟ้า
ต่อมา เวลา 18.25 น. มีเสียงคล้ายปะทัดอีก 3 ครั้ง ประชาชนค่อยๆ เดินถอยร่น แต่ยังคงปักหลักอยู่
ทั้งนี้ ก่อนยุติการชุมนุม มีการจุดพลุขึ้นฟ้า ประชาชนต่างปรบมือ ส่งเสียงเฮ
เวลา 18.28 น. เสียงคล้ายปะทัด ดังต่อเนื่อง
นายธัชพงศ์ กล่าวว่า พี่น้องเรา ไม่คิดว่า การมาอย่างสันติ จะถูกกระทำอย่างหนักหน่วง
จากนั้น เวลา 18.30 น. นายธัชพงศ์ ประกาศยุติการชุมนุม โดยขอใช้เส้นทางแยกยมราช และว่า ขอให้ติดตามการเคลื่อนไหวต่อไป ที่เพจ เยาวชนปลดแอก- Free Youth เนื่องจากมีผู้บาดเจ็บเป็นจำนวนมาก


