มึน! วัคซีนแอสตร้าฯ สธ.เผยรู้ทีหลังผลิตในไทยแต่ต้องส่งออก

เมื่อวันที่ 18 ก.ค.64นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยถึงสัญญาการจัดซื้อวัคซีนจากบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า ว่า เป็นการทำสัญญาล่วงหน้า ไม่ได้ระบุวันเวลาที่แน่ชัดในการจัดส่ง โดยหากเป็นไปได้ไทยขอให้จัดส่งครบ 61 ล้านโดส ภายในสิ้นปี 64 ทั้งนี้ กรมฯยังไม่เคยระบุเป็นทางการว่าจะฉีดได้ 3 ล้านโดส รวมถึงเพิ่งทราบในวันที่ 25 มิ.ย.64ว่า วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าที่ผลิตในไทยนั้น จะมีการส่งให้ต่างประเทศ เนื่องจากก่อนหน้านี้ทางรัฐบาลไม่ทราบมาก่อน โดยแอสตร้าเซนเนก้าก็ไม่ได้ระบุว่าวัคซีนที่ผลิตในไทยว่าจะมีการส่งให้ต่างประเทศ แต่ในสัญญาจะระบุว่า หากจะมีการส่งออกต่างประเทศก็ขอให้ไทยสนับสนุนส่งออกวัคซีนไปยังต่างประเทศไม่ให้มีการขัดขวางการส่งออกโดยไม่สมควร ส่วนที่มีการรายงานออกมาก่อนหน้านี้ว่า แอสตร้าเซนเนก้าจะส่งวัคซีนให้ไทยครบถึงเดือนพฤษภาคม 2565 นั้น นพ.โอภาส ยังกล่าวถึงที่การระบุว่าแอสตร้าฯจะส่งวัคซีนให้ไทยครบถึงเดือนพ.ค.65 นั้น ข้อเท็จจริงคือขณะนี้การผลิตของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า ในโรงงานผลิตในไทย พยายามจะผลิตให้ได้ประสิทธิภาพมากขึ้น ขณะนี้กำลังการผลิตที่ไทยคำนวณอยู่ที่ประมาณ 15 ล้านโดสต่อเดือน โดบ 1 ใน 3 จะส่งให้ไทยได้ประมาณ 5 ล้านโดสอย่างต่ำ โดยบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า ไม่เคยระบุว่าจะส่งให้ไทยถึงพ.ค.65 ทั้งนี้ ในสัญญาความต้องการที่ไทยส่งไปยังคงยืนยันอยู่ที่ 61 ล้านโดส ซึ่งถ้าเป็นไปได้อยากจะให้ในเดือนธันวาคมปีนี้ คงต้องมีการเจรจาเป็นรายเดือนต่อไป ทั้งนี้ ตั้งแต่ 28 ก.พ.64 ถึง 16 ก.ค.64 ไทยได้รีบวัคซีนแอสตร้าเซเนเก้าแล้ว 8,193,500 โดส แบ่งเป็น 28 ก.พ.64 จำนวน 117,300 โดส 28 พ.ค.64 จำนวน 242,100 โดส 4 มิ.ย.64 จำนวน 1,787,100 โดส 16 มิ.ย.64 จำนวน 610,000 โดส 18 มิ.ย. 64 จำนวน 970,000 โดส 23 มิ.ย. 64 จำนวน 593,300 โดส 25 มิ.ย. 64 จำนวน 323,600 โดส 30 มิ.ย. 64 จำนวน 846,000 โดส 3 ก.ค. 64 จำนวน 590,000 โดส 9 ก.ค. 64 จำนวน 555,400 โดส 12 ก.ค 64 จำนวน 1,053,090 โดส เป็นล็อตญี่ปุ่นบริจาค 16 ก.ค 64 จำนวน 505,700 โดส นพ.โอภาส กล่าวว่า ตามแผนที่ไทยกำหนดฉีดวัคซีนไว้อย่างน้อย10 ล้านโดสต่อเดือน แผนขณะนี้ยังคงเป็น 10 ล้านโดสอยู่ โดยมีวัคซีน 2 ชนิด คือ ซิโนแวค และ แอสตร้าเซนเนก้าที่จะส่งไปบังจังหวัดต่างๆ ซึ่งกลุ่มเป้าหมาย ก็จะเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ หากแอสตร้าเซนเนก้าไม่สามารถจัดส่งให้ได้ จะมีแผนสำรอง คือ การหาวัคซีนจากแหล่งอื่นมาเพิ่มเติม ส่วนการจะให้ไทยเข้าร่วมโครงการโคแวกซ์นั้น จะมีคณะกรรมการระดับกระทรวงพิจารณาซึ่งจะมีการชี้แจงต่อไป ด้านนพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรคกล่าวว่า สำหรับวัคซีนที่อยู่ในความสนใจคือ โนวาแวกซ์ ไทยกำลังอยู่ในขั้นตอนเจรจาเพื่อขอถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตมาในประเทศไทย เริ่มจากการซื้อ และถ่ายทอดเทคโนโลยีและมาผลิตร่วมกัน ซึ่งมีขั้นตอน และปกติจะไม่เปิดเผยเพราะถือเป็นความลับ