เมื่อวันที่ 17 ก.ค.64 นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ประธานชมรมแพทย์ชนบท โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า ...
"ข่าวนี้จริงใช่ไหม ปรากฏการณ์รัฐขยับ หลังแพทย์ชนบทบุกกรุง
สามสี่วันนี้ผมแทบจะไม่ได้ให้เวลากับโลกโซเชียล แทบไม่ได้เล่นเฟสตอบไลน์ เพราะเวลาหายหมด ตื่นเช้าก็จัดการตัวเองแล้วออกเดินทางร่วมเป็น1ใน6ทีมปฏิบัติการแพทย์ชนบทบุกกรุงกลับมาถึงค่ำก็หมดแรง
เมื่อวานผมเห็นข่าวนี้ ผมถึงกับยิ้มกว้างหัวเราะเบา ว่าปฏิบัติการเล็กๆด้วยพลังของแพทย์ชนบทและทีมโรงพยาบาลชุมชนจากชายขอบไม่กี่แห่งที่หนักหน่วงและจริงจังสามารถสร้างแรงกระเพื่อมใจกลางทำเนียบได้จริง
การบุกกรุงของแพทน์ชนบทมาสวอปตรวจหาเชื้อโควิดในครั้งนี้ แน่นอนว่าเราทำเพื่ออุดช่องว่างและลดความทุกข์ของประชาชนที่อยากตรวจเชื้อโควิด แต่หาที่ตรวจไม่ได้เลย แต่อีกเป้าหมายที่เราคาดหวังก็คือ รัฐเองก็ต้องปรับนโยบายตรวจให้มาก ตรวจให้เร็ว เพื่อทุกคนจะได้จัดการตนเองได้
รัฐต้องกล้าเผชิญความจริงว่า เราไม่ได้ติดเชื้อใหม่แค่วันละหมื่นคนหรอก นั่นคือ new high ที่เราตรวจวันละ 6-7 หมื่นคนต่อวัน หากเราตรวจสักวันละแสนสองแสนคน อัตราพบผู้ติดเชื้อใหม่อาจจะเกินสามหมื่นคนต่อวัน ลำพังทีมแพทย์ชนบทบุกกรุงสามวัน ตรวจสวอปผู้คนไป 19,871 ราย พบผู้ติดเชื้อ 1,777 ราย หรือ 9%ของคนที่มาตรวจไปแล้ว ส่วนใหญ่แข็งแรงไม่มีอาการหรือมีอาการเล็กน้อย และมีประวัติคนในบ้านหรือเพื่อนร่วมงานติดโควิด
ครั้งนี้เป็นบทเรียนอีกครั้งที่สะท้อนว่า สามัญชนสามารถปรับเปลี่ยนนโยบายรัฐบาลได้ หากมีเนื้อหา รูปแบบและจังหวะที่เหมาะสม
แม้รัฐจะประกาศนโยบายเคาะประตูบ้านตรวจโควิดมาแล้ว กว่ากลไกรัฐจะค่อยๆขยับใช้เวลาหลายสัปดาห์ แต่ความทุกข์ของผู้คนนั้นรอไม่ได้ แพทย์ชนบทเราคุยกันว่า สัปดาห์หน้าเราจะกลับมาอีก จะชวนเพื่อนผองน้องพี่วิชาชีพสุขภาพในชนบท มากอบกู้กรุงเทพมหานครอีกรอบด้วยทีมที่ใหญ่กว่าเดิม
ประเทศนี้โลกนี้คือของเราทุกคน ใครทำอะไรได้ทำ ไม่จำเป็นต้องหวังต่อรัฐบาลที่พูดแล้วไม่รู้ว่าจะทำอะไรได้แค่ไหน"
ขอบคุณข้อมูลและภาพ เพจ นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ