ผู้สื่อข่าวรายงาน วันที่ 17 ก.ค. 64 สถานการณ์โควิด19 ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี วิกฤตหนัก และยังไม่สามารถควบคุมได้ เนื่องจากตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงขึ้นอีก โดยตัวเลขวานนี้ วันที่ 16 กค. วันเดียงพุ่ง 378 คน ยอดผู้ป่วยสะสม 5,620 คน รักษาหาย 3,113 คน อีกทั้งมีผู้เสียชีวิตรายใหม่เพิ่มอีก 5 ศพ ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสม 59 ศพ และยังมีประชาชนหลายพันคนอยู่ระหว่างรอผลตรวจว่ามีผลเป็น บวก หรือ ลบ
สถานการณ์โควิด19ของ จ.ปัตตานี วันนี้ยังไม่สามารถควบคุมได้ ศบค. ยังคงให้เป็นพื้นที่สีแดงเข้ม โดยในห้วงที่ผ่านมา แพทย์ต้องทำงานอย่างหนัก หลังพบผู้ป่วยมีการปกปิดไทม์ไลน์อย่างต่อเนื่อง ทำให้แพทย์หลายคนต้องกักตัว และติดเชื้อไปตามกัน อีกทั้งคนที่เหลือที่เคยสัมผัสก็แพร่เชื้อไปอีกหลายคน แต่ที่ต้องจับตามากที่สุดคือ กลุ่มเสี่ยงที่รอผลตรวจ เนื่องจากกลุ่มเหล่านี้มาจากหลายๆพื้นที่ และไม่แสดงอาการ ซึ่งระหว่างรอผลตรวจก็ต้องกักตัวอยู่ที่บ้าน แต่ผลที่ได้คือ ยังคงพบกลุ่มเสี่ยงที่รอผลตรวจเดินเพ่นพ่านออกมาข้างนอกชุมชน อีกทั้งประชาชนอื่นๆที่ใช้ชีวิตปกติ ยังคงดื้อรั้น ไม่สวมแมสก์บ้าง และแมสก์อยู่ใต้คางบ้าง ซึ่งหลายคนยังเมินต่อมาตรการป้องกันโควิด19 แต่จังหวัดปัตตานีก็ยังไม่เด็ดขาดกับประชาชนที่ไม่ปฏิบัติตาม ทำให้เชื้อได้ขยายอย่างรวดเร็ว ซึ่งพักหลังมานี้แพทย์ทั้งโรงพยาบาลใน จ.ปัตตานี โรงพยาบาลสนามต่างๆต้องทำงานอย่างหนักมากขึ้น และคาดว่าผู้ป่วยรายใหม่และเสียชีวิตจะยังคงเพิ่มขึ้นอีก
ส่วนผู้เสียชีวิตก็ยังคงเพิ่มขึ้นทุกวัน เนื่องจากกลุ่มติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการ มักแพร่เชื้อไปยังคนในครอบครัวที่เป็นกลุ่มเปราะบาง มีโรคต่างๆ ทำให้ปัจจุบันมีผู้ป่วยรุนแรงรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลปัตตานี เกือบ100 คนแล้ว ส่งผลให้เตียง icu เริ่มรองรับผู้ป่วยอาการรุนรุนไม่เพียงพอ อีกอุปกรณ์ทางการแพทย์ เช่นเครื่องออกซิเจนความดันสูง และเครื่องช่วยหายใจแรงดันบวก ที่มีความจำเป็นที่สุดที่ทางโรงพยาบาลปัตตานีต้องการ
ขณะเดียวกัน ด้วยตัวเลขผู้ติดเชื้อในจังหวัดปัตตานีที่เพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ชาวบ้านในหลายพื้นที่ ต่างกันกังวล หลายคนผวาหนัก จิตตกไปตามกัน เพราะโควิด19ใกล้เข้ามาหาตัวเองมากขึ้น ทำให้ประชาชนเริ่มหันดูแล และหาทางป้องกันเอง โดยใช้สมุนไพร ซึ่งทำให้บรรยากาศที่ตลาดสดทุกตลาดในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ตั้งแต่เช้าประชาชนแห่เดินทางมาจับจ่ายกระชาย ขิง และสมุนไฟอื่นๆ เพราะชาวบ้านมีความเชื่อ หากนำสมุนไพรเหล่านี้มาต้มดื่ม จะช่วยป้องกันโควิด19ได้
ขณะนี้ราคากระชายตามตลาดสด พบว่ามีราคาสูงขึ้น จากเดิมราคา กิโลกรัมละ 60 บาท ขึ้นเป็น กิโลกรัมละ 120 บาท กระทั้งวันนี้ ราคาขึ้นอีก กิโลกรัมละ 140 บาท คาดว่าราคากระชายจะยังคงสูงขึ้นอีก แต่ยังไม่ขาดตลาด เช่นเดียวกับ ราคา ขิง จากเดิมราคา กิโลกรัมละ 60 บาท ขึ้นเป็น กิโลกรัมละ 70 บาท และปัจจุบัน กิโลกรัมละ 80 บาท
นางเสริมทริป สุขขวด แม่ค้าขายผักสดในตลาดเทศวิวัฒน์ 1 เผยว่า ราคากระชายยังคงสูงขึ้น 140 บาท ต่อกิโลกรัม จากเดิมราคา 60 บาท ต่อกิโลกรัม ตอนนี้ขายดีที่สุดคือ กระชายและขิง ซึ่งขิงตอนนี้ 80 บาท ต่อกิโลกรัม จากเดิม 60 บาท ต่อกิโลกรัม ซึ่งที่ขายดีแบบนี้ เพราะชาวบ้านเชื่อว่าสรรพคุณช่วยต้านโควิด 19 โดยมักมีชาวไทยพุทธและอิสลามแห่มาซื้อกันเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่ก็จะต้มน้ำดื่ม ตอนนี้กระชายยังคงมีเพียงพอและถือว่ายังไม่ขาดตลาด และไม่แน่ใจว่าราคากระชายจะยังคงปรับขึ้นอีกหรือไหม แม้ว่าราคาสูง แต่ก็มีประชาชนยังคงมาซื้อ
ขณะนี้ราคากระชายตามตลาดสด พบว่ามีราคาสูงขึ้น จากเดิมราคา กิโลกรัมละ 60 บาท ขึ้นเป็น กิโลกรัมละ 120 บาท กระทั้งวันนี้ ราคาขึ้นอีก กิโลกรัมละ 140 บาท คาดว่าราคากระชายจะยังคงสูงขึ้นอีก แต่ยังไม่ขาดตลาด เช่นเดียวกับ ราคา ขิง จากเดิมราคา กิโลกรัมละ 60 บาท ขึ้นเป็น กิโลกรัมละ 70 บาท และปัจจุบัน กิโลกรัมละ 80 บาท
นางเสริมทริป สุขขวด แม่ค้าขายผักสดในตลาดเทศวิวัฒน์ 1 เผยว่า ราคากระชายยังคงสูงขึ้น 140 บาท ต่อกิโลกรัม จากเดิมราคา 60 บาท ต่อกิโลกรัม ตอนนี้ขายดีที่สุดคือ กระชายและขิง ซึ่งขิงตอนนี้ 80 บาท ต่อกิโลกรัม จากเดิม 60 บาท ต่อกิโลกรัม ซึ่งที่ขายดีแบบนี้ เพราะชาวบ้านเชื่อว่าสรรพคุณช่วยต้านโควิด 19 โดยมักมีชาวไทยพุทธและอิสลามแห่มาซื้อกันเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่ก็จะต้มน้ำดื่ม ตอนนี้กระชายยังคงมีเพียงพอและถือว่ายังไม่ขาดตลาด และไม่แน่ใจว่าราคากระชายจะยังคงปรับขึ้นอีกหรือไหม แม้ว่าราคาสูง แต่ก็มีประชาชนยังคงมาซื้อ