เมื่อวันที่ 16 ก.ค.นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ Facebook Chao Meekhuad เรื่อง ประกันภัยประชาชนต้องไม่เป็นภัยสำหรับประชาชน มีเนื้อหาระบุว่า จากกรณีบริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ SMK ออกประกาศบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยการติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) มีเนื้อหาว่า ด้วยผลสืบเนื่องจากการระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 อันเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินที่ทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง และมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นในอัตราที่สูง จึงนับเป็นภาวะวิกฤตด้านสาธารณสุขในระดับที่ท้าทายจนไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าสถานการณ์จะพัฒนาไปสู่จุดใด ส่งผลให้บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) ต้องบริหารความเสี่ยงให้มีประสิทธิภาพ จึงมีความจำเป็นต้องใช้สิทธิบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยการติดเชื้อไวรัสโคโรนาแบบ เจอ จ่าย จบ หรือ COVID 2 in 1 ตามแบบและข้อความ หมวดที่ 2 เงื่อนไขทั่วไป และข้อกำหนด ข้อ 2.4.3 และข้อ 2.5.1 โดยให้กรมธรรมประกันภัยข้างต้นสิ้นสุดความคุ้มครองทั้งฉบับ เมื่อล่วงพ้นกำหนด 30 วัน นับแต่วันที่ผู้เอาประกันให้รับหนังสือเป็นต้นไป และบริษัทฯ จะคืนค่าเบี้ยประกันภัยที่ใด้รับมาแล้วแก่ผู้เอาประกันให้แล้วเสร็จภายในกำหนด 15 วัน นับแต่วันที่กรมธรรมประกันภัยสิ้นผลบังคับ โดยหักเบี้ยประกันภัยสำหรับระยะเวลาที่กรมธรรม์ประกันภัยฉบับนี้ได้ใช้บังคับมาแล้วออกตามส่วนนั้น
“ผมเห็นว่า เป็นเรื่องน่าทุเรศมาก ถือ เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคอย่างหน้าด้าน ๆ ที่สำคัญผมยังเห็นว่าข้อสัญญาดังกล่าว เป็นข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม ขัดกับหลักกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยและศิลธรรมอันดีของประชาชน ย่อมตกเป็นโมฆะ บริษัทสินมั่นคงในฐานะผู้รับประกัน จะอ้างเอาสถานการณ์โควิด 19 ที่ทวีความรุนแรงและมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นในอัตราที่สูง มาเป็นเหตุยกเลิกสัญญาไม่ได้ ผมอยากให้บริษัทนี้ย้อนไปถึงวันทำแคมเปญ “เจอจ่ายจบ” พวกท่านมั่นใจฟันกำไร เพราะรัฐบาลดูเหมือนคุมอยู่ พอวันนี้ทำท่าว่า “เจอจ่ายเจ๊ง” ท่านเลยชิ่งหนี โดยไม่คิดถึงประชาชน เป็นการบริหารที่เห็นแก่ตัว หากยังไม่ทบทวน ผมเชื่อว่าท่านอาจจะ “เจ๊ง” ขึ้นมาจริง ๆ เพราะประชาชนบอยคอตไม่มั่นใจที่จะทำประกันกับบริษัทนี้อีก” นายเชาว์ กล่าว