กองกำกับการการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยีร่วมกับกลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภคและเภสัชสาธารณสุข สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตรัง บุกทลายคลินิกเสริมความงามเถื่อนกลางเมืองตรัง ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าไม่มีใบอนุญาตเป็นสถานพยาบาลอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่กลับให้บริการฉีดโบทอกซ์, ฟิลเลอร์, รักษาสิวและอื่นๆ โดยมีการโฆษณาผ่านทางเฟสบุ๊กเชิญชวนประชาชน อีกทั้งนำผลิตภัณฑ์ที่ไม่ผ่าน อย.เข้ามาใช้
ที่ห้องลิบง ศาลากลางจังหวัดตรัง นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง พร้อมด้วยนายแพทย์บรรเจิด สุขพิพัฒนปานนท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดตรัง เจ้าหน้าที่กองกำกับการการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยีร่วมกับกลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภคและเภสัชสาธารณสุข ร่วมกันแถลงข่าวพร้อมด้วยของกลาง เป็นเวชภัณฑ์เสริมความงาม ทั้งนี้ประชาชนได้มีการร้องเรียนไปยังสำนักนายกรัฐมนตรี ที่คลินิกเสริมความงาม ตั้งอยู่บริเวณถนนวิเศษกุล ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง จ.ตรัง ซึ่งเป็นเป็นคลินิกเสริมความงามอาจเป็นคลินิกเถื่อน เนื่องจากมีราคาถูกกว่าคลินิกความทั่วไป
ทางเจ้าหน้าที่กองกำกับการการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยีร่วมกับกลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภคและเภสัชสาธารณสุข สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตรัง จึงได้เข้าทำการตรวจสอบ ซึ่งจากการตรวจสอบภายในคลินิก ไม่พบใบอนุญาตเปิดเป็นสถานพยาบาลที่ถูกกฎหมาย และมีประชาชนอยู่ภายในคลินิกดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการจับกุมเจ้าของคลินิก เป็นเพศหญิง อายุประมาณ 29 ปี ทำงานเพียงคนเดียว พร้อมทั้งตรวจยึดของกลางที่เป็นเวชภัณฑ์ที่เกี่ยวกับการเสริมความงาม นำมาตรวจสอบ
นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวว่า คลินิกดังกล่าวเปิดเมื่อปี 2562 โดยให้บริการฉีดโบท๊อกซ์, ฟิลเลอร์, รักษาสิวและอื่นๆ ให้กับประชาชนที่สนใจ ส่วนมากจะเป็นลูกค้าเดิม อีกทั้งคลินิกดังกล่าวน่าจะมีการย้ายสถานที่บ่อยครั้ง เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจของเจ้าหน้าที่
ในขณะที่ พ.ต.ต.คมสัน สมอ่อน สารวัตรกองกำกับการ 4 กองกำกับการการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี กล่าวว่า ขณะเข้าไปตรวจสอบนั้นมีประชาชนกำลังรอเพื่อที่จะฉีดฟิลเลอร์ และอื่นๆ จึงทำการจับกุมเจ้าของคลินิกมาดำเนินคดี พร้อมแจ้งข้อหา 4 ข้อหาหลัก มีโทษตั้งแต่จำคุกและปรับ หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทางด้านนายแพทย์บรรเจิด สุขพิพัฒนปานนท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดตรัง กล่าวว่า คลินิกที่ถูกต้องตามกฎหมายที่จังหวัดตรัง มีทั้งหมด 252 คลินิก ส่วนที่เหลือไม่ทราบกี่แห่งนั้น จะเป็นคลินิกเถื่อน ทางเจ้าหน้าที่ได้ออกตรวจคลินิกอย่างต่อเนื่อง เพราะว่าการเปิดคลินิกนั้นใช้ใบอนุญาต ปีต่อปี ดังนั้นประชาชนที่จะใช้บริการคลินิก ต้องสังเกตว่ามีใบอนุญาตหรือไม่ มีรูปภาพแพทย์ประจำคลินิกหรือรูปภาพเจ้าของคลินิกหรือไม่ พร้อมทั้งตรวจสอบราคาว่ามีราคาถูกกว่าคลินิกเสริมความงามโดยทั่วไปหรือไม่
ซึ่งคลินิกที่ถูกจับครั้งนี้ การฉีด โบท๊อกซ์ ที่คลินิกถูกกฎหมายนั้น ราคาจะอยู่ที่ 7,000-10,000 บาท แต่ที่คลินิกเถื่อน มีราคาเพียง 2,500 บาท อีกทั้งเวชภัณฑ์ที่ใช้ไม่ผ่าน อย.อีกด้วย หากประชาชนต้องการตรวจสอบ คลินิกหสามารถตรวจสอบได้ที่ เวปไซด์สำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กรม สบส. (www.mrd-hss.moph.go.th และตรวจสอบชื่อแพทย์ที่เว็บไซด์ แพทยสภา (www.tmc.or.th) หากไม่พบราชื่อไม่ควรรับบริการ และขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบทันที