พิษโควิดยังอ่วม "เวิลด์แบงก์" หั่นจีดีพีปี 64 เหลือโต 2.2% ชี้ฉีดวัคซีนวงกว้าง-คุมกลายพันธุ์อยู่ ศก.ฟื้นเร็ว เมื่อวันที่ 15 ก.ค.64 นางเบอร์กิต แฮนเซิล ผู้จัดการธนาคารโลกประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยซึมตัวลงเป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกสามที่ส่งผลกระทบต่อการบริโภคภาคเอกชน และแนวโน้มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเข้ามาในปีนี้คาดว่าจำนวนจะลดเหลือเพียง 6 แสนคนเท่านั้น เมื่อเทียบกับในปี 62 ที่ก่อนเกิดการระบาดสถิตินักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยถึง 40 ล้านคน "ผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงจากโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อการจ้างงาน รายได้ และความยาก จน แต่การรับมือด้วยมาตรการความคุ้มครองทางสังคมที่ครบถ้วนของรัฐบาล ส่งผลเป็นที่น่าพอใจ พื้นที่การคลังของไทย ยังมีเพียงพอ สำหรับดำเนินมาตรการช่วยเหลือคนยากจนในช่วงเวลาหลายเดือนข้างหน้า" ทั้งนี้ประเทศไทยมีการดำเนินการที่ค่อนข้างดีในแง่ของระดับและความรวดเร็วในการรับมือด้านการคลัง เนื่องจากรัฐบาลได้ขยายมาตรการให้ความช่วยเหลือด้านการเงินแก่ประชาชน จากเดิมที่อยู่ในระดับที่ไม่มากนัก มาเป็นชุดของมาตรการเยียวยาเพื่อรับมือกับการระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งธนาคารโลกได้จำลองสถานการณ์เบื้องต้นไว้ว่าในปี 63 ประเทศไทยจะมีคนจนเพิ่มขึ้นอีกกว่า 7.8 แสนคน หากรัฐบาลไม่เพิ่มมาตรการความช่วยเหลือทางด้านสังคม ด้าน นายเกียรติพงศ์ อริยปรัชญา นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสประจำประเทศไทยของธนาคารโลก กล่าวว่า ในปี 2565 เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ 5.1% ขณะที่เศรษฐกิจไทยปีนี้คาดว่าจะขยายตัวได้ 2.2% ซึ่งการเติบโตของเศรษฐกิจไทยมาจากการส่งออกที่ฟื้นตัวได้ดีขึ้นจากอุปสงค์โลก โดยเฉพาะการฟื้นตัวของกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องจักรกล และผลิตผลทางการเกษตร แต่ก็ต้องจับตาความเสี่ยงที่ยังมีอยู่มากที่อาจทำให้การฟื้นตัวต้องล่าช้าออกไป เช่น การเกิดไวรัสโควิดสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งทำให้ประสิทธิภาพของวัคซีนที่มีอยู่ในปัจจุบันไม่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการแพร่ระบาดได้ ทั้งนี้ความรวดเร็วในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยจะขึ้นอยู่กับความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนในประเทศ ประสิทธิผลของมาตรการสนับสนุนทางด้านการคลัง และระดับการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ "เศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้าขึ้นกับ 3 ปัจจัยสำคัญคือ จะมีการระบาดของโรคโควิดในประเทศอีกรอบหรือไม่,การจัดหาและการกระจายวัคซีนป้องกันโควิด รวมทั้งการกลับคืนมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมถึงนักท่องเที่ยวไทย" ทั้งนี้ ธนาคารโลกมีข้อเสนอแนะในเชิงโยบายที่สำคัญ 3 ข้อ ดังนี้ 1.การจัดสรรวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่เพียงพอและทั่วถึงจะมีความสำคัญและเป็นปัจจัยหลักในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ เนื่องจากเป็นตัวแปรสำคัญที่จะกำหนดความช้า-เร็ว ในการเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติกลับเข้ามา ซึ่งรวมไปถึงการฟื้นตัวของภาคบริการ และการบริโภคภายในประเทศตามมาด้วย 2.ธนาคารโลกมองว่า ปัจจบุนนโยบายด้านการคลังของไทย ยังมีพื้นที่เพียงพอในการดำเนินนโยบายด้านเศรษฐกิจ และยังสามารถรักษาเสถียรภาพทางการคลังได้ แต่การใช้นโยบายดังกล่าว ควรเป็นแบบเจาะจงเพื่อให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ 3.จากสถานการณ์การค้าโลกที่มีแนวโน้มดีขึ้น ทำให้ไทยควรใช้โอกาสนี้ในการปฏิรูปโครงสร้างการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการลดอุปสรรคทางการค้า ทั้งนี้เพื่อให้เศรษฐกิจไทยได้รับอานิสงค์อย่างเต็มที่จากการฟื้นตัวของการค้าและการลงทุนในระดับโลก