สำหรับการร่วมมือในเชิงกลยุทธ์ระยะยาวอย่างยิ่งใหญ่กับ Gojek ของกลุ่มแอร์เอเชีย จะทำให้อุตสาหกรรมสามารถขับเคลื่อนไปได้อย่างเต็มศักยภาพ เนื่องจากมีระบบนิเวศธุรกิจดิจิทัลที่สมบูรณ์แบบ รวมทั้งการสร้างผลิตภัณฑ์และบริการด้านไลฟ์สไตล์ที่ไม่ใช่ของสายการบินกว่า 15 รายการบนแพลตฟอร์มพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ดิจิทัล เป็นการทำให้กลุ่มแอร์เอเชียก้าวขึ้นไปอีกขั้น เพื่อตอบสนองต่อความต้องการในภูมิภาคที่หลากหลาย เพื่อเป้าหมายที่จะนำเสนอซูเปอร์แอปไปยังตลาดหลักทั้งหมดของกลุ่มแอร์เอเชีย ผนึกกำลังเสริมแกร่ง ซึ่ง นายโทนี่ เฟอร์นันเดส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มแอร์เอเชีย กล่าวว่า การร่วมมือระหว่างแอร์เอเชีย ดิจิทัล หน่วยธุรกิจด้านดิจิทัลภายใต้กลุ่มแอร์เอเชีย และ Gojek (โกเจ็ก) แพลตฟอร์มบริการด้านอีคอมเมิร์ซและการชำระเงินผ่านมือถือชั้นนำของอาเซียน ที่ผนึกกำลังเสริมแกร่งผ่านการเข้าซื้อกิจการของ Gojek ส่วนที่ดำเนินการอยู่ในประเทศไทย ซึ่งข้อตกลงนี้เป็นไปตามแผนการเดินหน้าขยายการเติบโตของ airasia super app ให้ครอบคลุมภูมิภาคอาเซียนอย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันก็ทำให้ Gojek สามารถเพิ่มการลงทุนในการดำเนินงานได้ โดยเฉพาะในตลาดเวียดนามและสิงคโปร์ รวมทั้งในทางกลับกัน Gojek จะเข้าถือหุ้นบางส่วนในแพลตฟอร์ม airasia super app ซึ่งมีมูลค่าประเมินทางตลาดอยู่ที่ประมาณหนึ่งพันล้านเหรียญสหรัฐ ข้อตกลงดังกล่าวทำให้ทั้งสองฝ่ายต่างมีรากฐานธุรกิจที่แข็งแกร่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นโอกาสใหม่ในการดำเนินธุรกิจและเติบโตร่วมกันอย่างมั่นคงและยั่งยืนในภูมิภาคที่เติบโตเร็วที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ทั้งนี้ นายโทนี่ กล่าวว่า ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นหนึ่งในตลาดหลักของ airasia super app ความร่วมมือดังกล่าวจะเป็นการเสริมศักยภาพและสร้างระบบนิเวศธุรกิจของ Gojek ให้ดีขึ้น โดยเฉพาะสำหรับพนักงานรับส่งของ ร้านค้า และลูกค้าด้วยสินค้าและบริการใหม่ๆที่มีมากขึ้น เช่น อาหาร ของชำ สินค้าเกี่ยวกับความงาม และการจัดส่งพัสดุด่วน ควบคู่ไปกับบริการเรียกรถรับ-ส่ง โดยตั้งเป้าขยายสู่ตลาดใหม่ในประเทศ อาทิ เชียงใหม่และภูเก็ตในอนาคตอันใกล้ โดย แอพพลิเคชัน Gojek จะยังสามารถใช้งานได้ตามปกติ สำหรับผู้ใช้เพื่อรับบริการในกรุงเทพฯ จนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2564 จนกระทั่งรวมกับ airasia super app ในขณะที่พนักงานรับส่งของทุกคน และร้านค้า จะได้รับเชิญให้เข้าร่วมงานกับ airasia super app เพื่อให้การบริการเป็นไปอย่างต่อเนื่องต่อไป เพิ่มโอกาสการแข่งขัน ด้าน นายเควิน อลูวี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Gojek (โกเจ็ก) กล่าวว่า ข้อตกลงนี้เป็นเครื่องพิสูจน์ความสำเร็จของทีมในประเทศไทย ที่ขยายธุรกิจจากศูนย์สู่การเป็นผู้ให้บริการแบบออนดีมานด์ที่สร้างความแตกต่างให้กับผู้คนนับแสนหรือคนในประเทศ โดยแอร์เอเชีย ดิจิทัล และ airasia super app จะกลายเป็นพันธมิตรที่มีมูลค่าสูง เนื่องจากมีเป้าหมายเดียวกันในการนำเสนอบริการที่ดีขึ้นแก่ผู้ใช้ ในขณะเดียวกันก็ช่วยยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ขับขี่และร้านค้า อีกทั้งยังทำให้โกเจ๊ก มุ่งเน้นไปที่ตลาดต่างประเทศ อย่าง เวียดนามและสิงคโปร์ ซึ่งเป็นตลาดที่ให้ผลตอบแทนการลงทุนที่ดีที่สุดและโอกาสการเติบโตเชิงกลยุทธ์ ขณะที่ นางสาวไอรีน โอมาร์ ประธานแอร์เอเชียดิจิทัล กลุ่มแอร์เอเชีย กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้เป็นเครื่องพิสูจน์ความสำเร็จของการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของแอร์เอเชียและการเปลี่ยนจากสายการบินไปสู่ซุปเปอร์แอปไลฟ์สไตล์ครบวงจรที่เน้นการเดินทาง โดยกลุ่มดิจิทัลของแอร์เอเชียประกอบด้วยบริษัทดิจิทัลหลัก 3 แห่ง ได้แก่ airasia super app ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มไลฟ์สไตล์สำหรับการท่องเที่ยว อีคอมเมิร์ซ บริการทางการเงิน บริการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์พืชผลทางการเกษตรที่ขนส่งตรงจากฟาร์มผลิตภัณฑ์และบริการด้านสุขภาพและการศึกษา “Teleport” บริษัทร่วมทุนด้านการขนส่งและลอจิสติกส์ของเรา เป็นบริษัทโลจิสติกส์อีคอมเมิร์ซที่เติบโตอย่างรวดเร็ว พร้อมที่จะให้บริการจัดส่งถึงบ้านทันที เช่นเดียวกับการส่งมอบภายใน 24 ชั่วโมงทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และธุรกิจฟินเทค “BigPay” ของแอร์เอเชียกำลังก้าวขึ้นเป็นรายแรกของภูมิภาคในฐานะผู้ให้บริการด้านธุรกรรมธนาคารแบบเสมือน (Virtual Bank) ขณะที่ นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานกรรมการบริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า ด้วยพฤติกรรมคนไทยคือสามารถในการปรับตัวเข้ากับโลกดิจิทัลได้ดี คุ้นชินกับรูปแบบไลฟ์สไตล์ผ่านโทรศัพท์มือถือ และกิจกรรมต่างๆแบบเรียลไทม์ รวมถึงธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ฟินเทค และความบันเทิงออนไลน์ จนเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตประจำวัน ดังนั้นการที่กลุ่มแอร์เอเชียสามารถต่อยอดธุรกิจจากสิ่งที่ Gojek ประสบความสำเร็จแล้วในกรุงเทพฯ ได้อย่างดี พร้อมก้าวสู่โอกาสใหม่เพื่อมอบความสะดวกสบายและการแข่งขันด้านราคาที่มากขึ้นสำหรับคนไทย