ศึกชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020 หรือ "ยูโร 2020" ได้ปิดฉากลงอย่างยิ่งใหญ่ โดย “อังกฤษ” ต้องอกหัก พ่ายแพ้ให้กับ “อิตาลี” ในการดวลลูกจุดโทษไปอย่างเจ็บปวด แต่พลพรรค “สิงโตคำราม” คงต้องลืมความเจ็บปวดในครั้งนี้ให้ได้โดยเร็วที่สุด และเตรียมความพร้อมสู้ศึก “พรีเมียร์ลีก” ที่จะเริ่มในฤดูกาลใหม่ จากฉบับที่แล้ว ได้นำเสนอทีมเต็งไป 3 ทีม คือ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เต็ง 1 ส่วน “เต็งสอง” คือ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี และเต็ง 3 “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ของ “เจอร์เก้น คล็อปป์” วันนี้ เรามาเริ่มกันที่ เต็ง 4 ที่ยกให้ “ปีศาจแดง” แมนฯ ยูฯ ของ “โอเล กุนนาร์ โซลชา” แม้ฤดูกาลที่ผ่านมา จะทำทีมเบียดลุ้นแชมป์กับ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้อย่างสนุก แต่ยังมีหลายปัจจัยให้กุนซือ ต้องคบคิดแก้ไขข้อผิดพลาด โดยเฉพาะ “พาร์ตเนอร์แผงหลัง” มายืนคู่กับ “แฮร์รี แม็คไกวร์” ที่ยังเป็นปัญหาใหญ่ และเชื้อได้ว่า หลังจบศึกชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป “ปีศาจแดง” จะไม่รีรอจัด “บิ๊กดีล” กองหลังเกรดเอ เข้ามายกระดับความแข็งแกร่งในแผงหลัง ทำตลาดซื้อขายในวงการฟุตบอลปั่นป่วนเลยทีเดียว ในขณะที่ในบางตำแหน่งอาจจะต้องมีการแข่งขันกันตลอดทั้งฤดูกาลใหม่เพื่อการรับประกันตำแหน่งตัวจริงในทีมไม่ว่าจะเป็น “อองโตนี มาร์กซิยาล” กองหน้าชาวฝรั่งเศสโชว์ฟอร์มได้น่าผิดหวังเมื่อซีซั่นก่อน โดยทำได้เพียง 7 ประตูจากการลงเล่น 36 นัดในทุกรายการ ทั้ง ๆ ที่เมื่อย้อนกลับไป 2 ฤดูกาลที่แล้วเจ้าตัวเพิ่งจะระเบิดฟอร์มที่ดีที่สุด นับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีมเมื่อปี 2015 “ดอนนี ฟาน เดอ เบ็ค” กองกลางค่าตัว 40 ล้านปอนด์จาก “อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม” ที่ส่วนใหญ่ก็ใช้เวลานั่งดูเพื่อน ๆ อยู่บนม้านั่งสำรอง อย่างไรก็ตามด้วยการมาถึงของ “เจดอน ซานโช” รวมทั้งการพัฒนาการที่น่าจับตามองของ “อาหมัด ดิยัลโล” และ “เมสัน กรีนวูด” จึงอย่ามองข้าม “ปีศาจแดง” โดยเด็ดขาด เต็ง 5 “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้ ที่เวลานี้พวกเขาได้นักเตะใหม่มาร่วมทีมแล้ว 2 ราย คือ “แพตสัน ดากา” ยอดกองหน้าทีมชาติแซมเบีย วัย 22 ปี ที่กระหน่ำไป 27 ประตู จาก 28 นัด ส่วนอีกคนคือ “บูบาการี ซูมาเร” กองกลางดาวรุ่งชาวฝรั่งเศส ของ ลีลล์ แชมป์ ลีก เอิง ฝรั่งเศส ซีซั่นล่าสุด ที่เคยตกเป็นข่าวกับบรรดาสโมสรใหญ่ในยุโรป แต่สุดท้ายก็ได้มาลงเอยกับ “เลสเตอร์” ส่วนรายที่ 3 ที่กำลังจะตามมาก็คือ “ไรอัน เบอร์ทรานด์” แบ็กซ้ายมากประสบการณ์จาก “นักบุญ” เซาแธมป์ตัน มาร่วมทีม ผนึกกับขุมกำลังเดิม ทั้ง “ยูริ ติเลอมองส์ ,เจมส์ แมดดิสัน ,เคเลชี อิเฮียนาโช และ เจมี วาร์ดี ด้วยแล้ว “ทีมใหญ่ๆ” คงประมาทไม่ได้ ดีไม่ดีอาจะสร้างเซอร์ไพรส์ คว้าแชมป์ขึ้นมาก็เป็นไปได้ ส่วน ทีม “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ของ “มิเกล อาร์เตตา” กุนซือวัยหนุ่ม อยู่ระหว่าง “ยกเครื่อง” ในการปรับเปลี่ยนระบบ และตัวผู้เล่น จึงต้องใช้เวลาสักระยะ เพื่อปรับจูนให้เข้าที่เข้าทาง เช่นเดียวกับ “ไก่เดือยทอง” ทอตแนมฮอตสเปอร์ ที่เพิ่งได้ “นูโน” นั่งแท่นกุนซือใหม่ และต้องปวดหัวตั้งแต่เริ่มงาน ในการรั้ง “แฮร์รี เคน” ยอดกองหน้า วัย 27 ปีให้ได้ หลังประกาศชัดเจนว่า ต้องการย้ายทีม ยังไม่รวมตำแหน่งอื่นๆ อีกมากมายที่ต้องได้รับการแก้ไข จึงต้องให้เวลากับ “นูโน” อย่างน้อยๆ 2 ฤดูกาล ในการสร้างทีมขึ้นมาใหม่ จึงเป็นได้เพียง “ไม้ประดับ” เท่านั้น อย่างไรก็ตามการคาดเดา ทีมนั้น ทีมนี้ จะเป็นตัวเต็ง เป็นแชมป์ คงจะวัดอะไรไม่ได้ ในสถานการณ์ “โควิด-19” ระบาดอย่างหนัก เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ ตัวอย่างก็มีให้เห็น เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา โดยเฉพาะ “หงส์แดง” ที่เจอเคราะห์ใหญ่ “ผู้เล่นบาดเจ็บระนาว” ดังนั้น “แฟนบอล” จะไปคาดหวังทีมโปรดของตัวเองไม่ได้ แต่เราคาดวังได้ คือ ศึกนี้ “ร้อนระอุ” แน่ ๆๆ