ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัวจากพิษการระบาดของโรคโควิด 19 กลับมีแก๊งส์มิจฉาชีพซ้ำเติมชาวบ้านที่กำลังประสบภาวะเดือดร้อนจากเศรษฐกิจ ที่ต้องการเงินเข้ามาหมุนเวียนต้องถูกหลอกตุ๋นซ้ำ ในเรื่องนี้นางสิวิกา ทองวิจิตร อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 168 หมู่ 9 ตำบลคลองกระบือ อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งบ้านของเธอประกอบอาชีพอู่ซ่อมรถยนต์และไดนาโมขนาดเล็กริมถนนสายนครศรีธรรมราช- ปากพนัง ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวเพื่อเป็นอุทาหรณ์เตือนภัยให้กับผู้ที่อาจตกเป็นเหยื่อแก๊งส์ต้มตุ๋นเช่นเดียวกับเธอ หลังจากต้องสูญเงินไปกับแก๊งส์นี้ไปกว่า 2 หมื่นบาท นางสิริวิกา เปิดเผยว่าตนเองได้รับโทรศัพท์เสนอให้มีการกู้เงินผ่านแอปพลิเคชั่นที่ชื่อว่า “ซูเปอร์โลน” ซึ่งอยู่ในระหว่างที่ตนเองกำลังขาดเงินหมุนเวียนในการซื้ออะไหล่มาใช้ในอู่บริการลูกค้า จึงหลงเชื่อโดยปลายสายได้ส่งลิ๊งค์มาให้ดาวโหลดแอปพลิเคชัน หลังจากที่ดาวโหลดแล้วได้เข้าไปกรอกข้อมูลพร้อมทั้งส่งเอกสารเพื่อทำการกู้วงเงิน 50,000 บาท แต่เริ่มผิดปกติ หลังจากที่ผู้ที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ได้ติดต่อกลับมาอ้างว่าต้องชำระค่าธรรมเนียม 10 เปอร์เซ็นของวงเงินกู้ แต่หลังจากชำระแล้วจะโอนเงินกลับมาในระบบ พร้อมเงินกู้ 55,000 บาท “แต่ขณะนั้นยังไม่ได้เฉลียวใจหลงเชื่อ โอนเงินไปยังบัญชีหนึ่งที่แจ้งมาให้โอนซึ่งเป็นบัญชีชื่อบุคคล หลังจากนั้นในแอปพลิเคชั่นมีการโอนตัวเลขเข้ามา 55,000 บาท แต่เมื่อจะไปกดโอนเงินในแอปปลิเคชั่นออกมาปรากฏว่าไม่สามารถทำได้ เมื่อติดต่อเจ้าหน้าที่กลับอ้างว่าเอกสารผิดพลาดบัญชีไม่ถูกต้อง จะต้องส่งเอกสารใหม่และจะต้องโอนเงินไปเพื่อเป็นค่าธรรมเนียมแก้ไขอีก 15,500 บาท แล้วจะได้รับการโอนกลับคืนรวม 75,500 บาทหลงเชื่อไปอีกครั้งจึงโอนเงินไปให้ แต่เริ่มเฉลียวใจเมื่อพบว่ามีการส่งบัญชีมาให้ในชื่ออีกบัญชีที่ไม่ตรงกันเลย หลบังจากนั้นจึงขอเงินคืน ทางคนที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่อ้าสงว่าไม่สามารถคืนได้ต้องทำรายการให้แล้วเสร็จ คือต้องโอนเงินเพิ่มเข้าไปอีก” นางสิริวิกา ยังให้ข้อมูลว่าหลังจากนั้นจึงรู้ว่าตนเองถูกหลอกแล้วจึงเดินทางไปแจ้งความที่ สภ.ปากพนังเมื่อวานนี้ โดยมี พันตำรวจโทไพรัตน์ จิรักษา เป็นพนักงานสอบสวน ซึ่งได้รับแจ้งความ โดยพบว่ามีเหยื่อที่เข้าแจ้งความทำนองเดียวกันนี้และถูกหลอกด้วยแอปพลิเคชั่นนี้เกือบ 10 รายสูญเงินไปราวคนละ 2 หมื่นบาทเช่นเดียวกัน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับเรื่องแจ้งความร้องทุกข์ แต่ไม่ทราบว่าจะสามารถติดตามแก๊งส์คนร้ายรายนี้ได้หรือไม่เพราะดูเหมือนว่ามีการเปิดชื่อบัญชีต่างๆไว้เป็นจำนวนมาก และมีการทำการเป็นขบวนการ และแม้ว่าตนเองจะส่งสำเนาแจ้งความไปให้ผู้ที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ในไลน์แล้วยังถูกข่มขู่กลับมาอีกว่าจะต้องรับผิดชอบตามสัญญากู้เงินที่ได้ทำไว้ หากไม่ชำระจะต้องถูกฟ้องร้องดำเนินคดีอีกด้วย ซึ่งหลังจากนี้ต้องรอเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนดำเนินคดีกับแก๊งส์นี้ เนื่องจากมีผู้เสียหายที่ถูกหลบอกเป็นจำนวนมาก