กทม.ยังพบป่วยรายวันสูงสุด 2,332 ราย ทำให้ยอดป่วยสะสมกทม.พุ่งไปที่ 103,907 ราย ตายสูงสุด 55 ราย ในขณะที่สมุทรปราการวันนี้ตัวเลขติดเชื้อสูงถึง 1,006 ราย ขณะที่การติดเชื้อในปท.วันนี้ 9,309 ราย มาจากต่างประเทศ 8 ราย วันนี้มีรายงานลอบเข้าประเทศตามช่องทางธรรมชาติ 11 ราย จากมาเลเซีย 4 ราย เมียนมา 7 ราย ยอดติดเชื้อจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 129 ราย  ยอดหายป่วย 5,129 ราย ยังรักษาอยู่ 99,511 ราย อาการหนัก 3,201 ราย โดยในจำนวนนี้มีอาการโคม่าต้องใส่เครื่องช่วยหายใจถึง 828 ราย วันที่ 14 ก.ค.2564  ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 (ศบค.) พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) รายงานสถานการณ์ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ใน ประเทศไทย ซึ่งล่าสุดพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 9,317 ราย โดยเป็นการติดเชื้อในประเทศ 9,309 ราย (แยกเป็นจากระบบเฝ้าระวังและบริการสุขภาพ 7,159 ราย จากการตรวจคัดกรองเชิงรุกในชุมชน 2,021 ราย จากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 129 ราย) และเดินทางมาจากต่างประเทศอีก 8 ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสม 363,029 ราย วันนี้มีผู้เสียชีวิตอีก 87 ราย ทำให้ยอดเสียชีวิตขยับไปที่ 2,934 ราย รักษาหายเพิ่มอีก 5,129 ราย รวมยอดรักษาหาย 260,584 ราย ยังรักษาอยู่จำนวน 99,511 ราย เป็นการรักษาอยู่ในรพ.56,057 ราย รพ.สนาม 43,454 ราย ทั้งนี้มีผู้ป่วยอาการหนัก 3,201 ราย ในจำนวนผู้ป่วยหนักนี้ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจถึง 828 ราย เฉพาะการระบาดในระลอกเดือนเมษายน ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.- 14 ก.ค.64 พบผู้ป่วยรายใหม่จำนวน 9,317 ราย โดยมีผู้ป่วยยืนยันสะสม 334,166 ราย รักษาหายเพิ่ม 5,129 ราย รวมรักษาหายแล้ว 233,158 ราย ยังรักษาอยู่จำนวน 99,511 ราย เสียชีวิต 87 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 2,840 ราย รายละเอียดผู้เสียชีวิต 87 ราย เป็นเพศชาย 44 ราย เพศหญิง 43 ราย อายุ 24-104 ปี อยู่ในพื้นที่ กทม.มากที่สุด 55 ราย ปทุมธานี 6 ราย สมุทรปราการ 1 ราย ยะลา 5 ราย นราธิวาส 4 ราย ปัตตานี 3 ราย เชียงใหม่ เชียงราย กำแพงเพชร จันทรบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ตาก นครพนม ระยอง สงขลา สุโขทัย สุพรรณบุรี อุดรธานี จังหวัดละ 1 ราย  โดยมีโรคประจำตัว เป็นโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน ตั้งครรภ์ ไขมันในเลือดสูง โรคไต โรคอ้วน โรคหัวใจ โรคปอด หลอดเลือดสมอง ซึ่งเป็นโรคประจำตัวที่เป็นปัจจัยเสี่ยงให้เกิดความรุนแรงของโรคเพิ่มขึ้น  โดยในจำนวนนี้ เป็นการติดเชื้อจากที่อาศัยและเดินทางไปในพื้นที่ระบาดถึง 46 ราย และเป็นการติดจากคนในครอบครัว 11 ราย และคนอื่นๆ เพื่อน เพื่อนร่วมงาน 24 ราย ซึ่งยังมากเช่นเดิม และ ไปในสถานที่แออัดพลุกพล่าน 4 ราย อาชีพเสี่ยง 2 ราย