วันที่ 13 ก.ค.64 เวลา 11.30 น.ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณสถานีรถไฟตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ค่อนข้างเงียบเหงา เนื่องจากการรถไฟมีการประกาศเรื่องการหยุดเดินรถไฟชั่วคราว ระหว่างวันที่ 13 ก.ค. 64 - 25 ก.ค.64 หลังจากที่มีคำสั่งของจังหวัดนราธิวาส ที่ 3352/2564 เรื่อง มาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) (ฉบับที่ 7) ลงวันที่ 12 กรกฎาคม 2564 ให้งดบริการขนส่งสาธารณะทุกประเภท ตั้งแต่วันที่ 12-25 กรกฏาคม 2564 ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งสาธารณะ ได้แก่ สำนักงานขนส่งจังหวัดนราธิวาส สถานีรถไฟในพื้นที่ฯ และท่าอากาศยานนราธิวาส ชี้แจงประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการได้รับทราบถึงการบังคับใช้มาตรการดังกล่าว รวมทั้งตรวจสอบและดำเนินการให้เป็นไปตามมาตรการที่ทางราชการกำหนด ทั้งนี้หากพบผู้ฝ่าฝืน ให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป และขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงหรือชะลอการเดินทางข้ามพื้นที่จังหวัดในช่วงระยะเวลานี้ โดยไม่มีเหตุจําเป็น
ทางด้านนายวชิรกรณ์ เต๊ะซา พนักงานเดินรถ 4 (เสมียน ) เปิดเผยว่าหลังจากที่มีคำสั่งของจังหวัดนราธิวาส ล่าสุด ให้งดบริการขนส่งสาธารณะทุกประเภท ตั้งแต่วันที่ 12-25 กรกฏาคม 2564 ทางการรถไฟจึงงดให้บริการเดินรถฯ ตามคำสั่งดังกล่าว ซึ่งได้มีการประชาสัมพันธ์ผ่านทางเพจของสื่อต่างๆในพื้นที่ สร้างการรับรู้ให้ประชาชน โดยตั้งแต่วันที่ 13-25 กรกฎาคม 2564 ขบวนรถไฟทุกขบวนจะไม่วิ่งเข้าเขตพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ตามคำสั่งจังหวัดนราธิวาสที่ 3352/2564 ลงวันที่ 12 กรกฎาคม 2564 โดยขบวนรถไฟท้องถิ่นธรรมดาทุกขบวน ต้นทางจากสุราษฎร์ธานี, นครศรีธรรมราช ,พัทลุงจะรับส่งผู้โดยสารแค่ปลายสถานีรถไฟยะลาและเริ่มต้นทางที่สถานียะลาถึงปลายทางตามปกติ โดยยกเว้นขบวนรถเร็วที่171/172 (กรุงเทพ-โกลก-กรุงเทพ ปลายทางที่สถานีทุ่งสง) จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง และหากประชาชนมีข้อซักถามสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน 1690
พร้อมกล่าวเพิ่มเติม ประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชนที่ใช้บริการรถไฟ จะต้องขอหนังสือออกนอกจังหวัดจากทางอำเภอต้นทาง หากประสงค์จะเดินทางข้ามจังหวัดโดยใช้บริการรถไฟ
ขณะนายมะซาซูรี สือแม ผู้ประกอบการเดินรถสองแถวจะแนะ-ตันหยงมัส บอกว่า วันนี้เดินทางมารับผู้โดยสารปกติ ที่สถานีรถไฟตันหยงมัส เนื่องจากไม่ทราบว่ารถไฟหยุดให้บริการ ซึ่งที่ผ่านมารายได้จากการรับส่งผู้โดยสารลดน้อยลงมาก เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19