หลวงพี่น้ำฝน ผุดไปเดีย 1 อำเภอ 1 วัดรับเผาศพโควิด-19 รับการเสียชีวิตในพื้นที่ต่างจังหวัด หลังมีนโยบายส่งคนป่วยรักษาตัวบ้านเกิด เชื่อยังมีคนตายเพิ่มแน่ แม้ตัวเองยังเสียน้าไป 2 คนแล้ว ขณะบรรยากาศ เผา เก๋ สุกี้ ตำนานหนึ่งในร้านดังตลาดโต้รุ่งชื่อดังใน องค์พระปฐมเจดีย์ โดยครอบครัว เพื่อน ร่วมอาลัยเศร้าหลังสู้พิษไวรัสไม่ไหว
วันนี้ (13 ก.ค. 64) ที่ฌาปนสถานวัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ได้จัดสถานที่เพื่อทำพิธีฌาปนกิจ นายวุฒิพงษ์ ประจักษ์ทรัพย์ อายุ 48 ปี หรือ เก๋ สุกี้ซิ่ง เจ้าของร้าน เก๋ สุกี้ อาหารตามสั่ง หนึ่งในร้านชื่อดังในตลาดโต้รุ่ง องค์พระปฐมเจดีย์ ซึ่งเป็นศพที่ 82 ที่เสียชีวิตจาการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยมีครอบครัว และตัวแทน จาก ดร.ภานุวัฒน์ สะสมทรัพย์ สส.นครปฐม นายจิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม นายปองพล สะสมทรัพย์ และสมาชิกรถจักรยานยนต์ กลุ่ม บิ๊ก พาโกด้า เข้ามาร่วมส่งดวงวิญญาณด้วยความโศกเศร้าเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งเก๋ ติดเชื้อราวกลางเดือน มิถุนายน และมาทรุดหนักเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน โดยมีอาการไตวายเมื่อช่วงวันที่ 29 มิถุนายน ก่อนจะทรุดหนักและมาเสียชีวิตในที่สุดเป็นความช๊อคให้กับเพื่อนฝูงและลูกค้าประจำที่ทราบข่าว
หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม เผยว่า วันนี้ก็ได้เผาศพรายที่ 82 สำหรับผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งยังมีคิวจองการเผาเข้ามาเรื่อย ๆ ซึ่งจะเห็นว่าสถานการร์ของการแพร่ระบาดนั้นดูไม่ลดลง โดยตอนนี้ยังมีนโยบายการส่งผู้ป่วยกลับไปรักษาตัวที่บ้านเกิด ตรงนี้ต้องบอกว่าจะมีตัวเลขกระจายไปทั่วทั้งจำนวนผู้ป่วย ผู้ที่รักษาหาย รวมถึงผู้ที่เสียชีวิต ซึ่งสิ่งที่อยากจะเสนอแนวคิดไว้ให้ตั้งรับสำหรับวัดทั่วประเทศ ซึ่งอาจจะมีวัดหลายแห่งที่ยังไม่มีความเข้าใจในการรับเผาศพผู้ที่เสียชีวิตและอาจะไม่รับหรือไม่พร้อมที่จะเผาศพตามพื้นที่ต่างจังหวัด
“อาตมาคิดว่า ถ้าเรามีโครงการ 1 อำเภอ 1 วัด รับเผาศพโควิด-19 ก็จะรองรับเรื่องเหล่านี้ได้ เพราะประเทศไทยนี้ถือว่าสุดยอดแล้ว เรามีเมรุเผาศพมาที่สุดในโลก ซึ่งเรามีความพร้อมแน่นอนหากเตรียมพร้อมไว้ ก็จะเป็นเรื่องที่ไม่เกิดปัญหา ซึ่งโรคนี้มันน่ากลัวแม้อาตมาจะระวังแล้ว ก็ยังสูญเสียโยมน้าไปแล้ว 2 คน และจากการติดตามสถานการณ์ อาตมาไม่ได้แช่งเชื่อว่าจะมีคนเสียชีวิตอีกเยอะฉะนั้นการวางแผนเอาไว้จะเป็นเรื่องที่ดีมาก โดยตอนนี้ก็เตรียมจะนำยาสมุนไพรไทย ในนามมูลนิธิหลวงพ่อพูล ออกไปแจกให้กับผู้ป่วยที่มีอาการยังไม่ลงปอด คือเราช่วยทั้งคนตายและคนที่ยังอยู่” หลวงพี่น้ำฝน กล่าวปิดท้าย
วันนี้ (13 ก.ค. 64) ที่ฌาปนสถานวัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ได้จัดสถานที่เพื่อทำพิธีฌาปนกิจ นายวุฒิพงษ์ ประจักษ์ทรัพย์ อายุ 48 ปี หรือ เก๋ สุกี้ซิ่ง เจ้าของร้าน เก๋ สุกี้ อาหารตามสั่ง หนึ่งในร้านชื่อดังในตลาดโต้รุ่ง องค์พระปฐมเจดีย์ ซึ่งเป็นศพที่ 82 ที่เสียชีวิตจาการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยมีครอบครัว และตัวแทน จาก ดร.ภานุวัฒน์ สะสมทรัพย์ สส.นครปฐม นายจิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม นายปองพล สะสมทรัพย์ และสมาชิกรถจักรยานยนต์ กลุ่ม บิ๊ก พาโกด้า เข้ามาร่วมส่งดวงวิญญาณด้วยความโศกเศร้าเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งเก๋ ติดเชื้อราวกลางเดือน มิถุนายน และมาทรุดหนักเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน โดยมีอาการไตวายเมื่อช่วงวันที่ 29 มิถุนายน ก่อนจะทรุดหนักและมาเสียชีวิตในที่สุดเป็นความช๊อคให้กับเพื่อนฝูงและลูกค้าประจำที่ทราบข่าว
หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม เผยว่า วันนี้ก็ได้เผาศพรายที่ 82 สำหรับผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งยังมีคิวจองการเผาเข้ามาเรื่อย ๆ ซึ่งจะเห็นว่าสถานการร์ของการแพร่ระบาดนั้นดูไม่ลดลง โดยตอนนี้ยังมีนโยบายการส่งผู้ป่วยกลับไปรักษาตัวที่บ้านเกิด ตรงนี้ต้องบอกว่าจะมีตัวเลขกระจายไปทั่วทั้งจำนวนผู้ป่วย ผู้ที่รักษาหาย รวมถึงผู้ที่เสียชีวิต ซึ่งสิ่งที่อยากจะเสนอแนวคิดไว้ให้ตั้งรับสำหรับวัดทั่วประเทศ ซึ่งอาจจะมีวัดหลายแห่งที่ยังไม่มีความเข้าใจในการรับเผาศพผู้ที่เสียชีวิตและอาจะไม่รับหรือไม่พร้อมที่จะเผาศพตามพื้นที่ต่างจังหวัด
“อาตมาคิดว่า ถ้าเรามีโครงการ 1 อำเภอ 1 วัด รับเผาศพโควิด-19 ก็จะรองรับเรื่องเหล่านี้ได้ เพราะประเทศไทยนี้ถือว่าสุดยอดแล้ว เรามีเมรุเผาศพมาที่สุดในโลก ซึ่งเรามีความพร้อมแน่นอนหากเตรียมพร้อมไว้ ก็จะเป็นเรื่องที่ไม่เกิดปัญหา ซึ่งโรคนี้มันน่ากลัวแม้อาตมาจะระวังแล้ว ก็ยังสูญเสียโยมน้าไปแล้ว 2 คน และจากการติดตามสถานการณ์ อาตมาไม่ได้แช่งเชื่อว่าจะมีคนเสียชีวิตอีกเยอะฉะนั้นการวางแผนเอาไว้จะเป็นเรื่องที่ดีมาก โดยตอนนี้ก็เตรียมจะนำยาสมุนไพรไทย ในนามมูลนิธิหลวงพ่อพูล ออกไปแจกให้กับผู้ป่วยที่มีอาการยังไม่ลงปอด คือเราช่วยทั้งคนตายและคนที่ยังอยู่” หลวงพี่น้ำฝน กล่าวปิดท้าย