วันที่ 12 กรกฎาคม นายอุดม ศรีมหาโชตะ อุปนายกสมาคมโรงแรมไทย ประธานร่วมฝ่ายสิ่งแวดล้อม อุปนายกสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันตก เจ้าของโรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า การประกอบกิจการของโรงแรมเถื่อนจะสิ้นสุดระยะเวลาการคุ้มครองจากคำสั่ง คสช.ที่ 6 /2564 ในวันที่ 19 สิงหาคม 2564 จึงขอให้กระทรวงมหาดไทย เร่งจัดการที่พักที่ผิดกฎหมาย สำหรับที่พักที่ไม่ใช่โรงแรมไม่เกิน 4 ห้องหรือพักได้ไม่เกิน 20 คน ควรแก้ไขเรื่องของการควบคุมดูแลในด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และผลกระทบของชุมชนรอบข้าง และความปลอดภัยด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม โดยเจ้าของที่พักต้องได้รับโทษทั้งทางแพ่งและอาญา หากไม่สามารถควบคุมผู้เข้ามีพักและปล่อยให้มีเหตุรำคาญกระทบกับชุมนุม
นายอุดม กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้แจ้งหน่วยงานฝ่ายปกครองในพื้นที่ อ.หัวหิน และ อ.ชะอำ หลายครั้ง เพื่อควบคุมโรงแรมและที่พักเถื่อนช่วงสถานการณ์การระบาดของโควิด 19 แต่เจ้าหน้าที่อ้างว่ายังมีมาตรา 44 จากคำสั่ง คสช. ไม่สามารถจัดการได้ ทำให้มีโรงแรมเถื่อนจำนวนมากไม่มีระบบป้องกันด้านสาธารณสุข ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน, ความมั่นคงปลอดภัยของอาคารสิ่งปลูกสร้าง การดูแลผลกระทบองชุมชนรอบข้างจากเหตุรำคาญ การควบคุมและลงทะเบียนผู้เข้าพักทั้งคนไทยและต่างชาติ
“หลายปีก่อนอ.หัวหิน มีปัญหานความมั่นคงจากผู้ก่อความไม่สงบ ลอบวางระเบิดมาเข้าพักในโรงแรมเถื่อน เพราะทราบว่าที่พักเหล่านี้ไม่บันทึกรายชื่อผู้เข้าพัก ทำให้เป็นแหล่งมั่วสุมของการจัดปาร์ตี้ มั่วยาเสพติด ไม่มีการรับผิดชอบของเจ้าของสถานที่โดยการสมรู้ร่วมคิดใช้ช่องว่างของกฏหมายทำสัญญาเช่าบ้าน โดยให้บุคคลอื่นข้ามาเช่าสถานที่ โดยบุคคลเหล่านี้จะไปเช่าบ้านพักอาจจะมากกว่า 10 แห่ง เพื่อปล่อยขายห้องพักรายวันบนสื่อออนไลน์ โดยไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคม”นายอุดม กล่าว