เมื่อวันที่ 12 ก.ค. 64 พรรคเพื่อไทย ได้นัดพรรคร่วมฝ่านค้านประชุมผ่านระบบ ZOOM ประกอบด้วยหัวหน้าพรรค,เลขาธิการพรรค,ที่ปรึกษาและตัวแทนพรรค เพื่อหารือสถานการณ์ทางการเมือง โดยมีวาระการประชุมคือ 1. ประเมินสถานการณ์รัฐบาล การระบาดของโควิด-19 และแนวโน้มสถานการณ์ต่อจากนี้ ความขัดแย้ง ความล้มเหลว และจังหวะก้าวของฝ่ายค้าน 2. การยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ม. 151 นายกฯ - ทั้งคณะ VS รายบุคคล3. อื่นๆ (ถ้ามี)
ขณะที่มีผู้เข้าร่วมประชุม 1.วันมูหะมัดนอร์ มะทา 2.ประเสริฐ จันทรรวงทอง3.พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ 4.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส 5.สงคราม กิจเลิศไพโรจน์ 6.นิคม บุญวิเศษ 7.ภูมิธรรม เวชยชัย 8.ชัยธวัช ตุลาธน 9.ทวี สอดส่อง 10.ชูศักดิ์ ศิรินิล 11.วิรัตน์ วรศสิริน 12.เผ่าภูมิ โรจนสกุล13.นภาพร เพ็ชรจินดา และ14.ชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ
ทั้งนี้นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ เพื่อไทยในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ได้มอบหมายให้ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา เป็นประธานที่ประชุม ดำเนินการประชุมเวลา 11.00 น โดยที่ประชุมมีมติ1.ที่ประชุมมีมติเห็นว่า สถานการณ์ประเทศในปัจจุบันอยู่ในภาวะวิกฤตขั้นสูงสุด ประชาชนกำลังล้มตาย ประเทศกำลังเสียหายยับเยิน จากการระบาดของโควิด-19 โดยทั้งหมดเกิดจากการบริหารงานที่ผิดพลาดและล้มเหลวของรัฐบาล จนไม่อาจปล่อยให้สถานการณ์ย่ำแย่มากไปกว่านี้ได้
2.พรรคร่วมฝ่ายค้านจึงเห็นร่วมกันว่ามีความจำเป็นต้องดำเนินการอภิปรายไม่ไว้วางใจตามมาตรา 151 ในช่วงเวลาที่เหมาะสม ทั้งนี้พรรคร่วมฝ่ายค้านเห็นว่าเพื่อความรอบคอบและความครบถ้วนของประเด็นการอภิปราย รวมถึงการมีส่วนร่วมของพี่น้องประชาชน จึงเห็นสมควรเชิญพี่น้องประชาชนร่วมกันเป็นเจ้าภาพ ในการร่วมอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล โดยเสนอให้พี่น้องประชาชนเข้าร่วมโดย ส่งข้อมูลความผิดพลาด ล้มเหลว รวมถึงการทุจริตที่เกิดขึ้นมายังพรรคร่วมฝ่ายค้าน โดยในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ จะเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจร่วมกันระหว่างพี่น้องประชาชน ข้าราชการ และพรรคร่วมฝ่ายค้านในการหยุดยั้งรัฐบาลที่ล้มเหลว
3.ในระหว่างที่ไม่มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พรรคร่วมฝ่ายค้านจะได้ทำงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อประโยชน์สูงสุดของพี่น้องประชาชน โดยจะนำเสนอท่าทีและความเห็นต่อสถานการณ์ประเทศต่อไป โดยจะมีการประชุมครั้งต่อไปในวันจันทร์ที่ 19 ก.ค. 64 เวลา 10.00 น. ส่วนรูปแบบการประชุมนั้นจะเป็นไปตามกฎหมายกำหนด
4.หลังจากสภาเปิดให้มีการร่วมประชุมได้ จะแจ้งความคืบหน้าให้สื่อมวลชนทราบอีกครั้ง