กรณีเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์มีปัญหาการนำขยะวันละ 45 ตัน จ้างบริษัทเอกชนเดือนละ 1.5 ล้านบาท ไปบำบัดที่ อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี ต่อมามีการร้องเรียนถึง สำนักงาน ป.ป.ช. ต่อมาเทศบาลเมืองฯได้นำขยะไปกองทิ้ง ในป่าสงวนแห่งชาติคลองบางนางรม อ้างว่าขอเช่าที่ดินจากเอกชนรายหนึ่ง พื้นที่กว่า 400 ไร่ ห่างจากศาลากลางจังหวัดเพียง 500 เมตร
วันที่ 12 กรกฎาคม นางกุหลาบ แฝงแก้ว ประธานสภาเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า มีการยื่นเรื่องถึงผู้ว่าราชการจังหวัดขอเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ พิจารณาแนวทางการบำบัดขยะชั่วคราวในป่าสงวนแห่งชาติคลองบางนางรม ยืนยันว่า ส.ท.เสียงส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการใช้พื้นที่ชั่วคราว เนื่องจากเมื่อปี 2552 ผู้บริหารเทศบาลขณะนั้นจะใช้งบมากกว่า 100 ล้านบาท สร้างบ่อขยะฝังกลบในบริเวณเดียวกัน แต่ประชาชน นักการเมืองบางรายที่มีอำนาจในปัจจุบันร่วมกันคัดค้านการใช้พื้นที่ ล่าสุดทราบว่าฝ่ายบริหารจะมีปัญหาจากการใช้งบประมาณกว่า 2 แสนบาทในการปรับสภาพพื้นที่ ขณะเดียวกันจะสอบถามฝ่ายบริหารว่าการจ้างเอกชนนำขยะวันละ 45 ตันไปทิ้งข้ามจังหวัดที่ จ.เพชรบุรี ค่าใช้จ่ายเดือนละ 1.5 ล้านบาท กระทั่งมีรการ้องเรียนถึง ป.ป.ช. ที่ผ่านมาเทศบาลมีการตรวจสอบความคุ้มค่าหรือไม่
นายแดง แก้วชิงดวง อดีตประธานชุมชนบ้านปากคลองบางนางรม กล่าวว่า ชาวบ้านได้รับผลกระทบจากกรณีที่เทศบาลนำขยะวันละ 45 ตันไปทิ้งในพื้นที่ชุ่มน้ำเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองบางนางรม โดยไม่ได้สอบถามความเห็นจากประชาชนในพื้นที่ ขณะนี้ขยะเริ่มส่งกลิ่นเหม็น จึงนำเรื่องร้องเรียนถึงศูนย์ดำรงธรรม เพื่อให้ตรวจสอบ เนื่องจากมีการทิ้งขยะใกล้พื้นที่ปลูกป่าชายเลนเฉลิมพระเกียรติ ใกล้กับชุมชนแห่งท่องเที่ยว นอกจากนั้นเกรงว่าน้ำเสียจากกองขยะจะมีผลกระทบกับชาวประมงชายฝั่งและกลุ่มชาวประมงที่เลี้ยงหอยนางรม เลี้ยงปลาในกระชังบริเวณปากคลองบางนางรม
“ เจ้าของนากุ้งที่รถขยะเทศบาลเมืองฯแล่นผ่านจะปิดเส้นทาง เพื่อไม่ให้เทศบาลนำขยะไปทิ้ง ป้องกันผลกระทบในระยะยาว เนื่องจากเทศบาลยังไม่ทำสัญญาเช่าพื้นที่กับเจ้าของที่ดินซึ่งเป็นนิติบุคคล แต่มีการตกลงกับบุคคลอื่นที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทราบว่าก่อนที่จะนำขยะไปทิ้ง มีทีมงานของผู้บริหารเทศบางรายไปแจ้งกับชาวบ้านที่ดูแลพื้นที่ว่าจะเข้าไปสำรวจเพื่อใช้งบเทศบาลตัดถนนเลียบทางรถไฟ แต่ทราบภายหลังว่ามีการนำขยะไปทิ้ง ”นายแดง กล่าว
นายนิทัศน์ จันทร์ทอง ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด (ทส.จ.)ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบการขุดบ่อขยะลึก 1.5 เมตร เจ้าหน้าที่เทศบาลแจ้งว่าใช้พื้นที่ว 1 เดือน จนกว่าจะหาสถานที่ทิ้งขยะนอกเขตจังหวัดได้ และปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งของนายกเทศมนตรี สำหรับที่ดินดังกล่าวอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติทั้งแปลง พื้นที่ 1,073 ไร่ ที่ผ่านมามติกรรมการ กบร.จังหวัด แจ้งให้กรมที่ดินเพิกถอนการออกเอกสารสิทธิที่ดินทุกแปลงที่ออกเอกสารสิทธิ์ทับที่ป่าสงวนแห่งชาติ และก่อนที่เทศบาลจะนำขยะมาพักชั่วคราวตามที่อ้าง ตามขั้นตอนต้องเปิดรับฟังความคิดเห็นจากชุมชน