ศูนย์บัญชาการสถานการณ์การระบาดโรค Covid-19 จังหวัดเชียงใหม่ แถลงผู้ติดเชื้อรายใหม่ 31 รายวันนี้ ส่วนใหญ่เป็นการติดเชื้อในพื้นที่ แจ้งด่วนเจ้าหน้าที่ร้านค้าที่รับสินค้ากับโรงงานขนมปัง สาขาสันกำแพง เข้ารับการตรวจหาเชื้อได้ที่โรงพยาบาลทุกแห่ง
วันที่ 10 ก.ค. 64 ที่ศูนย์บัญชาการสถานการณ์การระบาดโรค Covid-19 จังหวัดเชียงใหม่ ดร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ แถลงสถานการณ์การระบาดโรค Covid-19 จังหวัดเชียงใหม่ประจำวัน ว่าวันนี้จังหวัดเชียงใหม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 31 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมระลอกตั้งแต่ 1 เมษายน 2564 เป็น 4,356 ราย รักษาหายแล้ว 4,146 ราย ยังคงมีผู้รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลทุกประเภท จำนวน 181 ราย แยกเป็นโรงพยาบาลสนาม 33 ราย โรงพยาบาลรัฐ 100 ราย และโรงพยาบาลเอกชน 48 ราย โดยในวันนี้ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมของจังหวัดเชียงใหม่ยังอยู่ที่ 26 ราย ขณะที่กลุ่มผู้ติดเชื้อที่ยังรักษาตัวอยู่นั้น แยกเป็นกลุ่มผู้ป่วยที่ไม่มีอาการหรืออาการเล็กน้อย (สีเขียว) 103 ราย อาการปานกลาง (สีเหลือง) 61 ราย อาการค่อนข้างหนัก (สีส้ม) 16 ราย และผู้ป่วยอาการหนัก (สีแดง) 1 ราย
การตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิด-19 ในกลุ่มผู้สัมผัสหรือผู้เสี่ยงสูง เมื่อวานนี้ (9 ก.ค. 64) ตรวจไป 2,067 ราย พบผู้มีผลบวก 30 ราย คิดเป็นร้อยละ 1.45 ส่วนผู้ติดเชื้ออีก 1 ราย ได้ตรวจพบเชื้อจากกรุงเทพมหานคร สำหรับปัจจัยเสี่ยงในการติดเชื้อยังคงเป็นผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด และพบว่ามีการติดเชื้อต่อไปในครอบครัว ชุมชน และสถานที่ทำงานเพิ่มสูงขึ้น ส่วนการตรวจเชิงรุกในแรงงานต่างด้าว มีรายงานเพิ่มเข้ามา 4 อำเภอ คือ อำเภอแม่แตง อำเภอแม่อาย อำเภอสันกำแพง และอำเภอกัลยาณิวัฒนา ตรวจไป 1,081 ราย ทั้งหมดไม่พบเชื้อ ทั้งนี้จากการประเมินเบื้องต้น พบว่าแคมป์แรงงานที่ทำงานอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ตลอดเวลา จะมีความปลอดภัยสูง แต่ถ้ามีแรงงานหรือผู้ใดในแคมป์เดินทางไปในพื้นที่เสี่ยงและกลับมาก็อาจทำให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อเหมือนคลัสเตอร์ไซต์งานที่แยกศาลเด็กได้
การตรวจผู้ที่เดินทางเข้ามาในจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวานนี้ที่จุดตรวจเฉพาะกิจท่าอากาศยาน ตรวจไป 522 ราย พบเชื้อ 1 ราย ที่สถานีรถไฟ ตรวจไป 11 ราย ทั้งหมดไม่พบเชื้อ ส่วนที่สถานีขนส่งอาเขต ตรวจไป 56 ราย อยู่ระหว่างการรอผล โดยในเดือนกรกฎาคม มีผู้ที่เดินทางเข้ามาในจังหวัดเชียงใหม่แล้วจำนวน 187 ราย พบผู้มีผลบวก 80 ราย คิดเป็นร้อยละ 42.78 ซึ่งพบว่าเป็นผู้ที่เดินทางมาจากกรุงเทพฯ สูงถึง 60 ราย อย่างไรก็ตาม จังหวัดเชียงใหม่ยังคงมีคลัสเตอร์ที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดอีก 5 คลัสเตอร์ ซึ่งยังมีคลัสเตอร์ที่ยังพบผู้ติดเชื้ออยู่ 2 คลัสเตอร์ คือ คลัสเตอร์โรงงานขนมปัง และคลัสเตอร์ไซต์งานก่อสร้าง แยกศาลเด็ก โดยคลัสเตอร์โรงงานขนมปัง พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 2 ราย ซึ่งเป็นผู้สัมผัสกับผู้ติดเชื้อราย CM4334 ขณะนี้ได้ติดตามผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเข้ารับการคัดกรองครบแล้ว และสั่งให้ผู้มีผลตรวจเป็นลบกักตนเองเป็นเวลา 14 วัน ส่วนพนักงานห้างร้าน/ร้านสะดวกซื้อ ที่รับสินค้าจากบริษัทดังกล่าวช่วงวันที่ 27 มิถุนายน-7 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เข้ารับการตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลใกล้บ้านทุกแห่ง
ขณะที่คลัสเตอร์ไซต์งานก่อสร้าง แยกศาลเด็ก พบผู้ติดเชื้อเป็นเพื่อนร่วมงานอีก 4 ราย ทำให้คลัสเตอร์นี้มีผู้ติดเชื้อสะสมแล้ว 11 ราย โดยทั้งหมดได้กระจายอยู่ในที่พักและไซต์งานหลายอำเภอ ทั้งอำเภอเมือง อำเภอสันทราย อำเภอสารภี รวมถึงอำเภอหางดง ขณะนี้ทีมควบคุมโรคระดับอำเภอได้ลงพื้นที่ให้คำแนะนำ สอบสวนและควบคุมโรคในพื้นที่แล้ว
สำหรับรายละเอียดของผู้ติดเชื้อรายใหม่ 31 ราย ประกอบด้วย ผู้ติดเชื้อในจังหวัด 23 ราย เกิดจากคลัสเตอร์และการสัมผัสในครอบครัว 17 ราย และอยู่ระหว่างการสอบสวนอีก 6 ราย อย่างไรก็ตามส่วนใหญ่ยังไม่สามารถหาแหล่งโรคติดไม่ได้ ซึ่งอาจเกิดจากการปกปิดข้อมูล ไม่ทราบว่าตนเองมีความเสี่ยง และสัมผัสกับคนในครอบครัว ทั้งนี้ทีมสอบสวนโรคได้ดำเนินการติดตามผู้สัมผัสร่วมบ้านได้ทั้งหมดแล้ว อยู่ระหว่างการรอผลตรวจ และได้สั่งให้กักตัว 14 วัน ส่วนอีก 8 ราย เป็นผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด โดยเดินทางมาจากกรุงเทพฯ 6 ราย นครปฐม 1 ราย และสมุทรปราการ 1 ราย ซึ่งในจำนวนนี้ได้ตรวจพบเชื้อที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ 1 ราย
จึงขอเน้นย้ำให้ประชาชนทุกคน เคร่งครัดในมาตรการส่วนบุคคล ส่วนผู้ที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่ก็ต้องปฏิบัติตามมาตรการของทางจังหวัดอย่างเคร่งครัดทั้งการกักตัว สแกน CM-CHANA และการฉีดวัคซีนตามกำหนด ซึ่งหากสถานการณ์ยังคงเป็นเช่นนี้ อาจมีการยกระดับใช้มาตรการที่เข้มข้น เพื่อไม่ให้เกิดการระบาดเป็นจำนวนมากเหมือนในระลอกเดือนเมษายน
ด้านการฉีดวัคซีนของจังหวัดเชียงใหม่ ขณะนี้มีผู้ประสงค์เข้ารับการฉีดวัคซีนจำนวน 843,405 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 70 ของกลุ่มเป้าหมาย และมีผู้ได้รับการฉีดวัคซีนไปแล้ว 176,706 คน คิดเป็นร้อยละ 14.72 อย่างไรก็ตาม ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ได้ดำเนินการฉีดวัคซีนให้กับผู้ที่ลงทะเบียนในระบบหมอพร้อมไว้เกือบครบแล้ว หลังจากนี้จะได้ทยอยฉีดให้กับผู้ที่ลงทะเบียนไว้ในเว็บไซต์ “ก๋ำแปงเวียง”