กลับมาระบาดรุนแรงอีกครั้งโควิด 19 ที่แปดริ้ว ยอดเพิ่มรายวันนับร้อย

กลับมาระบาดรุนแรงอีกครั้ง โควิด 19 ในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา หลังพบยอดติดเชื้อเพิ่มรายวันนับ 100 รายต่อเนื่องเป็นเวลา 5 วัน ส่วนใหญ่เป็นคลัสเตอร์แคมป์คนก่อสร้าง และแรงงานในโรงงานอุตสาหกรรม ขณะผลสวอปพนักงานผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ 1,306 คน พบผลเป็นบวก 91 ราย ด้านพ่อเมืองแปดริ้วเตรียมปรับมาตรการคุมพื้นที่อย่างเหมาะสมพร้อมประกาศใช้ 12 ก.ค.64 นี้ วันที่ 10 ก.ค.64 เวลา 15.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด 19 ในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ว่าขณะนี้สถานการณ์เริ่มกลับมาระบาดรุนแรงเพิ่มมากขึ้นอีกครั้งอย่างต่อเนื่องในรอบ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยได้เริ่มกลับมามีผู้ติดเชื้อในอัตราสูงเกินกว่า 100 รายเมื่อวันที่ 4 ก.ค.64 มียอดผู้ติดเชื้อรวม 106 ราย วันที่ 5 ก.ค. ติดเชื้อ 81 ราย และพบการระบาดรุนแรงที่สุดในวันที่ 6 ก.ค. มีผู้ติดเชื้อจำนวน 262 รายซึ่งถือเป็นยอดผู้ติดเชื้อสูงสุดในรอบหนึ่งเดือน ในวันที่ 7 ก.ค.64 มีผู้ติดเชื้อ 100 ราย วันที่ 8 ก.ค. ติดเชื้อเพิ่ม 126 ราย วันที่ 9 ก.ค. มีผู้ติดเชื้อขยับสูงขึ้นอีกเป็น 184 ราย และในวันนี้ยังคงมีผู้ติดเชื้อเพิ่มอยู่ในอัตราสูงต่อเนื่องอีกจำนวน 171 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการระบาดจากกลุ่มของแรงงานในแคมป์คนงานก่อสร้าง และโรงงานอุตสาหกรรม ที่ยังคงเป็นแหล่งของการแพร่ระบาดขนาดใหญ่ในอัตราสูง ล่าสุดจากผลการสวอปหาเชื้อในกลุ่มพนักงานโรงงานผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ (บ.เดลต้าอิเลคโทรนิคส์) ในพื้นที่ อ.บางปะกง ซึ่งเป็นโรงงานขนาดใหญ่ มีแรงงานทั้งหมด 3,700 คน ตั้งอยู่ภายนิคมอุตสาหกรรมแห่งหนึ่งย่านถนนบางนา-ตราด กม.35 (ถ.เทพรัตน) พบมีผู้ติดเชื้อจำนวน 91 ราย จากการสวอปหาเชื้อในกลุ่มพนักงานจำนวน 1,306 คน ขณะเดียวกัน นายไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าราชการ จ.ฉะเชิงเทรา ได้เร่งสั่งการให้เจ้าหน้าที่จาก สสจ.ฉะเชิงเทรา รพ.พุทธโสธร และ สำนักงานสาธารสุข อ.เมืองฉะเชิงเทรา ลงพื้นที่ไปคัดกรองแยกกลุ่มผู้ป่วยตามอาการยังที่บริเวณแคมป์คนงานก่อสร้าง ข้างห้างสรรพสินค้าโรบินสันฉะเชิงเทรา ซึ่งมีการตรวจพบผู้ป่วยโควิด 19 จำนวน 117 ราย จากแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาและเมียนมาทั้งหมด จำนวน 202 คน เพื่อควบคุมไม่ให้มีอาการรุนแรง และเพื่อทำการแยกผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงออกไปทำการรักษายังภายนอกจุดพักคอยภายในแคมป์คนงาน ที่ถูกปรับให้เป็น รพ.สนามภายในแห่งนี้ ส่วนการยกระดับพื้นที่เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 เนื่องจาก จ.ฉะเชิงเทรา อยู่ในกลุ่ม 24 จังหวัดสีแดงพื้นที่ควบคุมสูงสุดนั้น คณะกรรมการโรคติดต่อ จ.ฉะเชิงเทรา ได้เตรียมปรับให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ของจังหวัด โดยจะทำการพิจารณาในแต่ละประเด็นเพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ย่อยภายในจังหวัด โดยจะยึดมติจากที่ประชุมของคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.ฉะเชิงเทรา เป็นสำคัญเพื่อคำนึงถึงมิติในด้านต่างๆ ทั้งสาธารณสุข ความมั่นคง เศรษฐกิจ และพร้อมที่จะทำการปรับให้เข้มงวดเพิ่มขึ้นหรือผ่อนคลายลงตามความเหมาะสมของสถานการณ์ โดยจะมีคำสั่งออกมาอย่างชัดเจนและบังคับใช้ในวันที่ 12 ก.ค.64 เป็นต้นไปต่อเนื่องเป็นเวลา 14 วัน ซึ่งในที่ประชุมได้มีมติตามคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.ฉะเชิงเทรา ที่ 55/2564 ลงวันที่ 9 ก.ค.64 ในการขอความร่วมมือประชาชนไม่เดินทางออกนอกเคหะสถาน ช่วงระหว่างเวลา 23.00 น.- 04.00 น. ของวันถัดไปเว้นแต่มีเหตุจำเป็น ส่วนร้านอาหาร เครื่องดื่ม หาบเร่แผงลอย สวนอาหารภัตตาคาร ศูนย์อาหารฯ ให้เปิดจำหน่ายและนั่งบริโภคได้ไม่เกิน 23.00 น. และห้ามดื่มสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านพร้อมจัดให้มีจุดคัดกรองก่อนเข้าร้าน สำหรับห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า เปิดได้เฉพาะซูเปอร์มาร์เก็ต อาหารเครื่องดื่ม ธนาคาร ร้านจำหน่ายอุปกรณ์สื่อสาร ให้เปิดได้ตามเวลาปกติแต่ให้งดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ส่วนร้านสะดวกซื้อ ตลาดกลางคืนให้เปิดได้ไม่เกิน 23.00 น.