ประมงสนธิกำลังหลายหน่วยงานเข้ารื้อถอนคอกหอยและขนำหลังนายทุนลักลอบจับจองแนวเขตกลางทะเลปากพนังกว่า 600 ไร่เตรียมเลี้ยงหอยแครง – เผยเป็นอดีตข้าราชการจับจองเตรียมแบ่งโซนขาย จนท.เร่งสกัด เจ้าหน้าที่ประมงจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ศรชลภาค 2 ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ตำรวจน้ำ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคนครศรีธรรมราช และฝ่ายปกครองอำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช สนธิกำลังเข้าทำการตรวจสอบพื้นที่บริเวณอ่าวปากพนัง รอยต่อระหว่าง ช่วงตำบลปากพนังฝั่งตะวันออก และตำบลแหลมตะลุมพุก อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช หลังจากพบว่ามีนายทุนรายหนึ่งลักลอบนำไม้ไผ่มาปักกั้นแนวเขตในพื้นที่ปากอ่าวปากพนัง เพื่อเตรียมที่จะทำการนำลูกหอยแครงมาปล่อยในพื้นที่มีลักษณะพฤติการณ์คล้ายกับการจับจองพื้นที่ปากอ่าวบ้านดอนในจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยเจ้าหน้าที่ได้เข้ทำการจับพิกัดรังวัดแนวเขตพบว่ามีการกันแนวเขตไว้รวม 620 ไร่ และได้ปลูกสร้างขนำเตรียมเฝ้าพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้รื้อถอนและทำลายแนวกั้นทั้งหมดโดยรอบ และรื้อถอนขนำที่ปลุกสร้างไว้กลางอ่าวทิ้งและเคลื่อนย้ายของกลางไว้เป็นหลักฐาน ในเบื้องต้นการสืบสวนนั้นพบว่ารมีนายทุนรายหนึ่งเป็นอดีตข้าราชการที่รู้จักในชื่อ “จ่ายักษ์” เป็นผู้ดำเนินการปักแนวเขตและปลูกสร้างขนำเตรียมปล่อยลูกหอยแครง และยังพบข้อมูลการแบ่งซื้อพื้นที่อีกด้วย นายพรศักดิ์ ศักดิ์ธานี ประมงจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่าเจ้าหน้าที่ได้ติดตามพฤติการณ์จากข้อมูลที่ชาวประมงรายย่อยให้ความร่วมมือจนพบว่าผู้ที่ดำเนินการในพื้นที่เป็นใคร แต่ในทางการดำเนินการนั้นไม่มีหลักฐาน ไม่พบการกระทำความผิดแบบซึ่งหน้า ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ให้โอกาสส่งคนไปแจ้งให้ทำการรื้อถอนออก แต่ปรากฏว่ายังเพิกเฉย จึงต้องเร่งทำการรื้อถอนทำลายไม่ให้มีการจับจองพื้นที่อย่างเด็ดขาด ส่วนการดำเนินการทางกฎหมายแม้ว่าทางการสืบสวนจะทราบว่าเป็นใครกลุ่มไหน แต่ไม่สามารถดำเนินการได้เนื่องจากไม่มีหลักฐานเพียงพอ เจ้าหน้าที่จึงใช้วิธีรื้อถอนทำลาย.