วันที่ 8 กรกฎาคม 2564 เวลา 18.30 น.ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ มูลนิธิร่วมกตัญญู อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ นายวันชัย คงเกษม ผวจ.สมุทรปราการ ได้เป็นประธานประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสรุปแนวทางการกำจัดสารเคมีที่หลงเหลืออยู่ในถังกักเก็บของ บริษัท หมิงตี้ เคมีคอล จำกัด ที่เกิดระเบิดขึ้น พร้อมประเมินความเสี่ยงรอบด้านเพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด ใช้เวลาการประชุมนานกว่า 2 ชั่วโมงก่อนที่เปิดแถลง คืบหน้าผลการดำเนินงาน ทั้งนี้ นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ได้สรุปผลการดำเนินการ ว่า ขณะนี้เพลิงสงบโดยสิ้นเชิงแล้ว 100 % เนื่องจากเมื่อคืนวันที่ 7 กรกฎาคมผ่านมาได้ลำเลียงสาร Deha หรือสารดี 5 กว่า 600 ลิตร ใช้กำลังคนลำเลียงขึ้นไปเทใส่ปล่องเหนือถังเก็บสารเคมีสไตรลีน เพื่อแปรสภาพและควบคุมไม่เกิดปฏิกิริยาความร้อน และเป็นที่แน่นอนแล้วว่าสารเคมีทั้งหมดทั้งในและนอกถังสามารถจัดการได้เรียบร้อย จึงได้จัดประชุมรวมกับหน่วยงานที่เกี่ยวของ เพื่อวางแผนขนถ่ายสารเคมีทั้งหมดไปทำลายที่ บริษัทมหาชน จำกัด อัคคีปราการ ซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมบางปู ให้ปลอดภัยที่สุด ส่วนแผนการดำเนินการนั้น ต้องรอผลและเงื่อนไข ระหว่าง บริษัท ผู้รับจัดการ และ บริษัท ผู้ว่าจ้างคือ บริษัท หมิงตี้ เคมิคอล จำกัด ต้องเป็นผู้ทำสัญญาก่อนที่จะมีการพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป อย่างไรก็ตามจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ได้สร้างผลกระทบเป็นวงกว้าง และทำให้บ้านเรือนบางหลังได้รับความเสียหาย ดังนั้นทางศูนย์อพยพยังต้องเปิดอยู่ โดยมีทั้งหมด 4 ศูนย์ และยังมีผู้พักอาศัยอยู่จำนวน199 คน ส่วนชาวบ้านซึ่งอยู่ในรัศมี 1 กิโลเมตรนั้นยังคงประกาศให้เป็นพื้นที่ควบคุมไปยังไม่สามารถเข้าพักอาศัยได้ ด้าน นาย ศุภวัฒน์ คุณวรวิโรจน์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารบริษัทมหาชน จำกัด อัคคีปราการ กล่าวว่า สำหรับขั้นตอนการขนถ่ายสารสไตร์ลีน ออกจากพื้นที่นั้น รถที่ใช้จะต้องเป็นรถ ไอโซ แท็งค์ขนาดความจุ 24 คิว โดยพื้นที่ในแท้ง จะต้องมีระบบเซฟตี้วาร์วและป้องกันการปนเปื้อนของออกซิเจน ทั้งนี้จาการสำรวจแท้งกับเก็บสารสไตร์ลีนนั้น พบว่า มีทั้งหมด 5 ตัว แต่มี 2 ตัวที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ คือวาล์วเข้าและออก โดยการถ่ายนั้นจะต้องใช้ระบบดูดเพื่อลดความเสี่ยง และต้องนำรถไอโซแท็งค์ เข้าไปใกล้บริเวณถังกับเก็บให้มากที่สุด สำหรับสารสไตร์ลีนที่อยู่ในถังเก็บนั้น คาดว่าขณะนี้ไม่น่ามีปัญหาอะไร แต่ปัญหาคือหากอุณหภูมิเกิน 45 องศา ขึ้นไป ถ้าทำปฏิกิริยากับ ออกซิเจนอาจจะเป็นอันตราย ดังนั้นการขนย้าย ไปที่ นิคมอุตสาหกรรมบางปู จำเป็นต้องใช้ความระวัง และรถเคลื่อนย้ายทุกคันต้องมีระบบจีพีเอสติดตาม โดยการวิ่งตามที่กฎหมายกำหนดคือไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในขั้นต้นทราบว่า สารสไตร์ลีนนั้นมีอยู่ประมาณ 600 ตัน หรือ ประมาณ 6 แสนลิตร เบื้องต้นหากไม่มีปัญหาอะไรอาจจะใช้เวลาขนย้ายประมาณ 10 วัน ทั้งนี้หากทดลองแล้วไม่มีปัญหาและความเสี่ยง ก็สามารถลดระยะให้กระชับขึ้นได้อย่างน้อยไม่เกิน 5 วัน ส่วนในการกำจัดต้องนำไปเผาในเตาอุณหภูมิสูงกว่า 1000 องศาขึ้นไป เท่านั้น ทั้งนี้คาดว่าจะสามารถส่งแผนการดำเนินการให้กับทางผู้ว่าราชการจังหวัดได้ภายใน 1 สัปดาห์