วันที่ 8 ก.ค.64 ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ได้ออกมารับหนังสือจาก นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนนตรีเมืองหัวหิน พร้อมคณะ และ นายกมล แก้วเทศ นายกเทศมนตรีเมืองประจวบฯ เพื่อยื่นถึง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอความอนุเคราะห์แก้ไขปัญหาสถานที่กำจัดขยะมูลฝอย โดยนายนพพร กล่าวว่าจากที่ศูนย์การทหารราบ (ศร.) ค่ายธนะรัชต์ อ.ปราณบุรี ปิดบ่อบำบัดขยะภายในพื้นที่ของศูนย์การทหารราบเนื่องจากหมดสัญญากับเทศบาลปราณบุรีตามที่ได้ขออนุญาตใช้พื้นที่เป็นศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยรวมเป็นระยะเวลา 20 ปี ซึ่งครบกำหนดแล้วและให้ยุติการนำขยะไปทิ้งในพื้นที่ ศร.ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.64 เป็นต้นไป ส่งผลกระทบอย่างมากต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้งเทศบาลและ อบต.รวม 21 แห่งของ จ.ประจวบฯ ที่ต้องนำขยะปริมาณมากในแต่ละวันไปทิ้งในพื้นที่ ศร. ต้องได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากไม่มีพื้นที่รองรับขยะได้ทัน โดยเฉพาะเทศบาลเมืองหัวหินซึ่งมีปริมาณขยะ 190 ตันต่อวัน ซึ่งก่อนหน้าปิดบ่อบำบัดเทศบาลได้วางแผนจัดหาพื้นที่กำจัดขยะแห่งใหม่ที่บ่อกำจัดขยะของบริษัทเอกชนที่ อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี แต่มีการคัดค้านจากประชาชนในพื้นที่ จึงจัดหาสถานที่ทิ้งขยะในที่ดินเอกชนที่ ต.บางโทรัด จ.สมุทรสาคร สภาเทศบาลให้ความเห็นชอบแล้ว แต่มีปัญหาในการบรรทุกขยะเนื่องจากมติกรรมการจัดการขยะระดับจังหวัดเพชรบุรีไม่ยอมให้นำขยะนอกพื้นที่เข้าจังหวัด จึงต้องใช้พื้นที่สาธารณ 8 ไร่ ภายในซอยหัวหิน 102 ต.หนองแก เป็นที่พักขยะชั่วคราว แต่ต่อมาถูกประชาชนที่อาศัยอยู่รอบข้างร้องเรียนจากปัญหาขยะส่งกลิ่นเหม็นรบกวน และชาวบ้านก็ให้เวลาเทศบาลถึงวันที่ 20 กรกฎาคมนี้ ถ้าบริหารจัดการไม่ได้ เขาก็จะไม่ทิ้งตรงนั้น ผมก็รับปากว่าจะมาทำทุกวิถีทางที่จะช่วยแก้ปัญหาชาวบ้านตรงนี้ให้ได้
“จากเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้เทศบาลเมืองหัวหินต้องประสบกับภาวะวิกฤติด้านการบริหารจัดการขยะอย่างร้ายแรงเนื่องจากในเขตพื้นที่เทศบาลและในเขตพื้นที่ จ.ประจวบฯ ไม่มีสถานที่ที่เทศบาลฯจะสามารถนำขยะมูลฝอยจำนวนมากต่อวันไปกำจัดได้ จึงขอความอนุเคราะห์ นายกรัฐมนตรี พิจารณาดำเนินการจัดหาสถานที่กำจัดขยะมูลฝอยในเขตพื้นที่ จ.ประจวบฯเป็นการเร่งด่วน หรือพิจารณาอนุญาตให้เทศบาลเมืองหัวหินใช้พื้นที่บ่อฝังกลบขยะเขาแล้ง ตำบลทับใต้ ซึ่งเป็นบ่อฝังกลบขยะเดิมที่เทศบาลฯเคยใช้เป็นสถานที่กำจัด เป็นสถานที่นำขยะมูลฝอยไปกำจัดเป็นการชั่วคราวไปพลางจนกว่าเทศบาลฯจะมีสถานที่กำจัดมูลฝอยของตนเองหรือจนกว่าโครงการแปรรูปขยะเป็นพลังงานในเขตพื้นที่ จ.ประจวบฯจะดำเนินการแล้วเสร็จ พิจารณาดำเนินการขอขยายเวลาการใช้พื้นที่ภายในศูนย์การทหารราบค่ายธนะรัชต์เพื่อใช้เป็นพื้นที่กำจัดขยะออกไปอีก 10 ปี เพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแต่ละแห่งได้มีเวลาในการดำเนินการจัดหาสถานที่กำจัดขยะมูลฝอยของตนเอง และขอให้ทาง จ.ประจวบฯ ดำเนินการหารือไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเพื่อขออนุญาตยกเว้นให้เทศบาลเมืองหัวหินไม่ต้องถือปฏิบัติตามข้อ 17 ส่วนที่ 2 การมอบหมายเอกชนเก็บ ขน หรือกำจัดมูลฝอย ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การจัดการมูลฝอย พ.ศ.2560 เนื่องจากเทศบาลฯเห็นว่าการดำเนินการตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการจัดการมูลฝอย พ.ศ.2560 ส่วนที่ 2 การมอบหมายเอกชนเก็บ ขน หรือกำจัดมูลฝอย ข้อ 17 มีขั้นตอนมากและต้องใช้ระยะเวลาในการดำเนินการ ซึ่งทำให้เกิดความล่าช้าและเป็นอุปสรรคในการบริหารจัดการขยะมูลฝอยของเทศบาลเมืองหัวหิน เทศบาลเองนั้นบางเรื่องเราทำเองไม่ได้ ก็อยากให้ส่วนของรัฐบาล ส่วนของภูมิภาคมาช่วยแก้ไขในท้องถิ่นด้วย อย่ามองอำนาจหน้าที่ว่าเป็นเรื่องของท้องถิ่นอย่างเดียว ก็อยากฝากท่านนายกรัฐมนตรีด้วย เป็นความหวัง อยากท่านให้ดำเนินการรวดเร็วครับ” นายนพพร กล่าว
ด้านนายกมล แก้วเทศ นายกเทศมนตรีเมืองประจวบฯ กล่าวว่า ปัญหาของที่เทศบาลเมืองประจวบก็คือว่าจุดที่เราได้ทิ้งขยะอยู่ที่ อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี มาถึงตอนนี้ปิดกะทันหันเมื่อ 1 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ขยะเทศบาลเมืองประจวบตอนนี้เราไม่สามารถไปทิ้งที่ อ.เขาย้อยได้ เราต้องหาที่ใหม่ที่เราจะเอาขยะไปกำจัด แต่ช่วงเวลาที่เราจะทำให้ถูกต้องตามกระบวนการ จากที่เราจะเปลี่ยนจาก อ.เขาย้อยไปที่กำจัดใหม่ มันจะต้องผ่านทั้งสภาเรา สภาปลายทาง ในเรื่องของคณะกรรมการจังหวัดด้วย เราจะต้องขนขยะผ่านพื้นที่ในหลายจังหวัด ในกระบวนการตรงนี้เราไม่มีที่ที่เราจะเอาขยะไปพักในพื้นที่ของเรา เพราะว่าพื้นที่ของเทศบาลเมืองประจวบเป็นพื้นที่เมืองส่วนใหญ่แค่ 14 ตารางกิโลเมตรเท่านั้นเอง เพราะฉะนั้นตอนนี้ปัญหาของเราก็คือต้องการที่ที่เราจะพักขยะในระหว่างที่เราดำเนินกระบวนการไปในที่ใหม่ อยากให้มันสำเร็จได้ตามกระบวนการ ก็เลยอยากให้ท่านนายกรัฐมนตรีช่วย
ภายหลัง นายเสกสกล รับหนังสือจาก 2 เทศบาลแล้วกล่าวว่าจะรีบนำเรียนให้ท่านนายกรัฐมนตรี ทราบเพื่อเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนต่อไป.