เมื่อวันที่ 8 ก.ค.ที่โรงพยาบาลบุษราคัม อาคารอิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง พร้อมด้วยคณะสมาชิกวุฒิสภา ประกอบด้วย นายณรงค์ สหเมธาพัฒน์ นายจิรชัย มูลทองโร่ย นายวิทยา ผิวผ่อง และนางสุวรรณี สิริเวชชะพันธ์ เดินทางไปเยี่ยมเยียนให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ พร้อมทั้งมอบเงินและสิ่งของที่จำเป็นให้แก่โรงพยาบาลบุษราคัม เพื่อเป็นการสนับสนุนการดำเนินงานในการช่วยเหลือดูแลผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ตามโครงการ “สว.เพื่อประชาชน ร่วมสู้ภัยโควิด-19” โดยมีนพ.มณเฑียร เพ็งสมบัติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระนั่งเกล้าและคณะ ร่วมให้การต้อนรับ
สืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่พบจำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก โดยกระทรวงสาธารสุขได้จัดตั้งโรงพยาบาลบุษราคัม เพื่อเป็นโรงพยาบาลสนามขึ้นที่อาคารชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี ตามนโยบายรัฐบาลที่ต้องการให้ผู้ติดเชื้อทุกคนได้รับการรักษาในโรงพยาบาล โดยรองรับผู้ป่วยได้ 3,000-5,000 เตียง ปัจจุบันได้ให้การดูแลรักษาผู้ป่วย จำนวน 1,938 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 4 กรกฎาคม 2564) รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง (พลเอก สิงห์ศึก สิงห์ไพร) ในฐานะประธานบริหารกองทุนเพื่อช่วยเหลือประชาชน กรณีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จึงเห็นควรนำเงินที่สมาชิกวุฒิสภาได้ร่วมกันบริจาคเข้ากองทุนมอบให้แก่ โรงพยาบาลบุษราคัม เป็นเงิน 700,000 บาท พร้อมอาหารกล่องและสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นสำหรับการดูแลผู้ป่วย ประกอบด้วย อาหารกล่อง จำนวน 450 ชุด อาหารว่าง จำนวน 450 ชุด เจลแอลกอฮอล์แบบขวด จำนวน 125 ขวด หน้ากากอนามัย จำนวน 12,500 ชิ้น อุปกรณ์อาบน้ำ จำนวน 450 ชุด และกระดาษทิชชู่ จำนวน 2,240 ชิ้น
กิจกรรมครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “สว.เพื่อประชาชน ร่วมสู้ภัยโควิด-19” ที่วุฒิสภาได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2564 ได้มอบเงินและสิ่งของที่จำเป็นให้แก่โรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียน เขตบางขุนเทียน และมีการจัดถุงยังชีพไปมอบให้แก่ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนตามชุมชนในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 10 ชุมชน รวม 1,405 ครัวเรือน ประกอบด้วย ชุมชนเฟื่องฟ้าพัฒนา เขตประเวศ ชุมชนศรีนครินทร์ 9 เขตสวนหลวง ชุมชนลำชะล่า (โคกบ่าวสาว) เขตบางเขน ชุมชนริมคลองกระจะ เขตบางกะปิ ชุมชนวัดจอมสุดาราม เขตดุสิต ชุมชนซอยรัชฎภัณฑ์ (ซอยหมอเหล็ง) เขตราชเทวี ชุมชนสหกรณ์เคหะสถานบ้านมั่นคงชุมชนกัลยาณมิตร จำกัด เขตบางซื่อ ชุมชนหลังโรงเจ เขตจตุจักร ชุมชนสี่แยกทศกัณฑ์ เขตบางแค และชุมชนบางเชือกหนัง 13 เขตตลิ่งชัน
สืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่พบจำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก โดยกระทรวงสาธารสุขได้จัดตั้งโรงพยาบาลบุษราคัม เพื่อเป็นโรงพยาบาลสนามขึ้นที่อาคารชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี ตามนโยบายรัฐบาลที่ต้องการให้ผู้ติดเชื้อทุกคนได้รับการรักษาในโรงพยาบาล โดยรองรับผู้ป่วยได้ 3,000-5,000 เตียง ปัจจุบันได้ให้การดูแลรักษาผู้ป่วย จำนวน 1,938 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 4 กรกฎาคม 2564) รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง (พลเอก สิงห์ศึก สิงห์ไพร) ในฐานะประธานบริหารกองทุนเพื่อช่วยเหลือประชาชน กรณีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จึงเห็นควรนำเงินที่สมาชิกวุฒิสภาได้ร่วมกันบริจาคเข้ากองทุนมอบให้แก่ โรงพยาบาลบุษราคัม เป็นเงิน 700,000 บาท พร้อมอาหารกล่องและสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นสำหรับการดูแลผู้ป่วย ประกอบด้วย อาหารกล่อง จำนวน 450 ชุด อาหารว่าง จำนวน 450 ชุด เจลแอลกอฮอล์แบบขวด จำนวน 125 ขวด หน้ากากอนามัย จำนวน 12,500 ชิ้น อุปกรณ์อาบน้ำ จำนวน 450 ชุด และกระดาษทิชชู่ จำนวน 2,240 ชิ้น
กิจกรรมครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “สว.เพื่อประชาชน ร่วมสู้ภัยโควิด-19” ที่วุฒิสภาได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2564 ได้มอบเงินและสิ่งของที่จำเป็นให้แก่โรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียน เขตบางขุนเทียน และมีการจัดถุงยังชีพไปมอบให้แก่ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนตามชุมชนในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 10 ชุมชน รวม 1,405 ครัวเรือน ประกอบด้วย ชุมชนเฟื่องฟ้าพัฒนา เขตประเวศ ชุมชนศรีนครินทร์ 9 เขตสวนหลวง ชุมชนลำชะล่า (โคกบ่าวสาว) เขตบางเขน ชุมชนริมคลองกระจะ เขตบางกะปิ ชุมชนวัดจอมสุดาราม เขตดุสิต ชุมชนซอยรัชฎภัณฑ์ (ซอยหมอเหล็ง) เขตราชเทวี ชุมชนสหกรณ์เคหะสถานบ้านมั่นคงชุมชนกัลยาณมิตร จำกัด เขตบางซื่อ ชุมชนหลังโรงเจ เขตจตุจักร ชุมชนสี่แยกทศกัณฑ์ เขตบางแค และชุมชนบางเชือกหนัง 13 เขตตลิ่งชัน