วันที่ 8 ก.ค.64 ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่ง เป็นประธานในการประชุม ทั้งนี้ก่อนเข้าสู่วาระการประชุม ส.ส.ได้พูดข่าวที่พูดถึงส.ส.ขอฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เข็มที่สาม และการพิจารณากระทู้ถามสดที่ไม่มีรัฐมนตรีร่วมชี้แจง มีเพียงนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย มารอตอบกระทู้เพียงคนเดียว ทั้งนี้นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานวิปรัฐบาล ชี้แจงกรณีที่มีสื่อมวลชนเผยแพร่ข่าวว่า สภาฯ ปิดประชุมเพื่อหนีองค์ประชุมล่ม ว่า เมื่อวันที่ 7 ก.ค.มีส.ส.เข้าร่วมประชุม กมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 65 ขณะนี้เร่งพิจารณาและจะเสร็จ ประมาณวันที่ 25 - 27 ก.ค. ซึ่งในกมธ. มีส.ส.ประมาณ 42 คน และในคณะอนุกมธ. ทั้ง 9 คณะ อีกคณะละ 10 คน แม้ผู้แทนราษฎรไม่อยู่ในห้องประชุมสภาฯ แต่อยู่ในสภาฯ ตลอด นายวิรัช กล่าวยืนยันว่า ในที่ประชุมวิป 4 ฝ่าย ไม่มีใครเสนอ หรือมีมติให้ฉีดวัคซีนเข็ม 3 ให้ส.ส. และจากการสอบถามไม่พบว่าต้นตอมาจากที่ใด ส่วนการประชุมสภาฯ หากประธานมีมติให้นัดประชุมเชื่อว่าส.ส. จะเข้าประชุมอย่างพร้อมเพรียง สำหรับการพิจารณากระทู้ถามสดรัฐมนตรีนั้น ทราบว่าวันนี้ (8 ก.ค.) มีกระทู้ที่สอบถาม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย แต่ติดการกักตัว ซึ่งอาจจะให้ นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทยชี้แจง ส่วนที่รัฐมนตรีไม่มาตนก็ไม่ทราบว่าทำไมไม่มา เพราะไม่ได้แจ้ง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ผลการประชุมวิป 4 ฝ่ายไม่มีมติให้หาวัคซีนเข็มที่ 3 คนที่ไปให้ข่าวต้องรับผิดชอบ คนที่เข้ามาในสภาต้องตรวจหาเชื้อทุกคน เพราะไม่มั่นใจว่าจะมีเชื้อหรือไม่ ถ้าพบผลบวกต้องแยกในทันที เพื่อที่จะเฝ้าระวัง ดังนั้นต้องเตรียมจัดหาวัคซีนที่ดีเพื่อมากระตุ้นให้กับสมาชิกรัฐสภาทุกคน เพราะภูมิคุ้มกันจะลดลง 3 เดือน 6 เดือน เราจำเป็นต้องมีวัคซีนไว้ล่วงหน้าเพื่อกระตุ้น ถ้าไม่มีเราก็จะกลับไปเผยแพร่เหมือนเดิม ถ้าจะตีความว่าเข็มสามเป็นการเรียกร้องของรัฐสภาให้ฉีดเข็มสามเป็นการตีความที่ผิด ไม่ว่าหน่วยงานไหน หรือรัฐไทย ที่ทำงานแบบโง่ๆ คุณต้องเตรียมเข็มสามแล้ว ติดตามเหตุการณ์ทีละก้าวทีละก้าว ได้คิดล่วงหน้าหรือไม่ แพทย์ พยาบาลที่ฉีดมาแล้วเขาจะได้รับการกระตุ้นอะไร โดยเฉพาะคนสูงอายุ รัฐบาลต้องคิด ประธานต้องช่วยวางแผนเรื่องนี้แล้วสำหรับสมาชิกรัฐสภา คนทำงาน รวมทั้งคนที่มาติดต่อ ต้องได้รับการฉีดวัคซีน ในเวลาที่เหมาะสม “ผมไม่สบายใจเมื่อวานเป็นข่าวทุกช่องคนที่ไปแถลงข่าวเรื่องนี้ต้องขอโทษสภาแห่งนี้ ถ้าเป็นสมาชิกให้ตั้งกรรมการสอบว่ามีจุดประสงค์อะไร ทำลายสภากันเองคิดว่าจะมีชื่อเสียงหรือ คิดว่าจะได้ข่าว ถ้าคิดอย่างนั้นคุณเป็นคนที่โง่มาก ดักดาน หิวแสง”นพ.ชลน่าน กล่าว จากนั้นนายชินวรณ์ บุญยเกียรติ ส.ส.จังหวัดนครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะวิปพรรคร่วมรัฐบาล ชี้แจงว่า รู้สึกไม่สบายใจจากข่าวที่เกิดขึ้นว่าส.ส.ควรจะฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 เรื่องนี้ไม่ควรเสียหายจากความไม่รับผิดชอบของส.ส. บางคนที่นำเรื่องที่ไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียด ทำให้รัฐสภาเสียหาย เพราะประชาชนคาดหวังว่าการประชุมสภาจะได้มีการหารือกันถึงปัญหาโควิด เพราะในการประชุมของวิป 3 ฝ่ายเห็นตรงกันว่าเราจะต้องทำหน้าที่ในสมาชิกสภาผู้แทน ประชาชนกำลังมีปัญหาเรื่องโควิดระบาด มีปัญหาเศรษฐกิจ จะหยุดการประชุมได้อย่างไร ตนเดินทางมาจากต่างจังหวัด นั่งเครื่องบินมาก็เสี่ยงต่อการติดเชื้อ แต่ในฐานะที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรก็ต้องรับผิดชอบ และที่สำคัญ และเราทุกคนต้องรับผิดชอบต่อมาตรการของศบค. และมาตรการของสภาอย่างเคร่งครัด เพราะสมาชิกรัฐสภาจะต้องเป็นตัวอย่าง “ผมก็ยืนยันว่าไม่มีใครสักคนที่พูดถึง หรือเรียกร้องให้มีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ให้กับสมาชิกรัฐสภา ไม่มีครับ มีแต่การพูดถึงเชิงวิชาการ ตามที่หมอชลน่านได้พูดถึง วันนั้นได้มีการพูดกันว่าเราจะต้องทำงานในฐานะที่เป็นสมาชิกรัฐสภาอย่างเต็มเวลา เพราะเมื่อมีปัญหามากขึ้น การสะท้อนปัญหาจากพี่น้องประชาชนมายังรัฐบาลล้วนเป็นหน้าที่ของพวกเราโดยตรง จึงมีการหารือกันว่าจะต้องมีการประชุมตามวัน เวลาปกติ แต่ต้องมีมาตรการในการดูแลสมาชิกรัฐสภา และบุคลากรที่เข้ามาในสภาอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะให้มีการตรวจ Rapid Test ให้กับคนที่เข้ามาในสภา ผมเป็นคนย้ำเองว่า ที่สำคัญสมาชิกรัฐสภาแต่ละคนจะต้องรับผิดชอบตัวเอง เพราะเชื้อนี้ไม่สามารถจะเดินมาได้เอง ตามคำพูดของหมอ เชื้อเดินมากับคน เพราะฉะนั้นต้องหยุดเชื้อเพื่อชาติ”นายชินวรณ์ กล่าว นายชินวรณ์ กล่าวว่า วันนี้สังคมก็ต้องตำหนิผู้ให้ข่าวที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง และไปขยายผลให้รัฐสภาเสียหาย แต่เราต้องเดินหน้าประชุมอย่างเคร่งครัด และขอให้ทำ Rapid Test การทำ Application เพื่อตรวจสอบสมาชิกรัฐสภา อยู่ที่ไหน ทำอะไร ได้มาประชุมกมธ. หรือประชุมในห้องประชุมใหญ่ และควรแยกสมาชิกรัฐสภาที่จะเข้าห้องประชุม กับเจ้าหน้าที่ผู้มาติดต่อให้ชัดเจน หากจะต้องชี้แจงไทม์ไลน์ก็จะบอกได้ว่าได้พบเจอใครบ้าง แต่หากไปพบเจอกับข้าราชการ หรือผู้มาติดต่อ จะทำให้บอกไม่ได้ว่าเคยพบใครบ้าง จึงอยากกำชับให้เจ้าหน้าที่อย่าไปเกรงใจเราให้พามา 1 คน แต่พาคนมา 4 คน 8 คนอย่างนี้ จะมากร่างที่รัฐสภาไม่ได้ ขอให้ฝ่ายเลขาธิการสภากำชับและควบคุมเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ถ้าเราป้องกันได้ก็จะเป็นแบบอย่างที่ดี และถ้าเราไม่หยุดก็จะเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับบุคคลที่อยู่ด่านหน้า บุคลากรทางการแพทย์ จะได้มีความหวังว่าแต่ละคนก็ต้องการที่จะให้วิกฤตินี้เราสู้ไปด้วยกัน และผ่านไปด้วยกัน จากนั้นนายสุชาติ ชี้แจงว่า ในการเมื่อวันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมาเป็นการประชุม 4 ฝ่าย เราได้ปรึกษาหารือกันว่าเราควรจะดำเนินการประชุมต่อไป หรือควรจะหยุดชั่วคราว ซึ่งก็มีการวิเคราะห์กันว่าวควรดำเนินการต่อไปเพราะเราเป็นหลักในระบอบประชาธิปไตย ต้องเป็นแบบอย่าง และสะท้อนปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และประเทศชาติ แต่การดำเนินการต่อไปต้องมีมาตรการเข้มข้น การเข้าห้องประชุมต้องตรวจ เพราะการแพร่ระบาดโควิดหนักมากเพิ่มขึ้นทุกวัน ขนาดตรวจไม่ครบยังไม่ติดกันวันละ 5 พัน ถ้ามีการตรวจกันจริงน่าจะพบมากกว่านี้ และยังได้วิเคาห์ทางการแพทย์โดยมองไปข้างหน้าจะควบุคมได้อย่างไร จำเป็นต้องเตรียมวัคซีน ในการประชุมเราพูดถึงภาพรวมของประเทศว่าจะต้องมีการกระตุ้นภูมิ แต่ไม่ได้พูดว่าเป็นมติของสภาจะฉีดวัคซีนเข็ม 3 “ผมยืนยันไม่มีมติดังกล่าว ผู้ที่ให้ข่าวผมต้องกรอบขออภัยและขอโทษ ไม่มี อาจจะคลาดเคลื่อนจากผู้ให้ข่าว หรือคลาดเคลื่อนจากการรับข่าว ที่ข่าวผิดพลาดออกมาผมต้องขอโทษข่าวที่ออกมาผิดพลาดไม่ตรงกับข้อเท็จจริงใด เราไม่มีมติใดๆบังคับให้ฉีดวัคซีนเข็มที่สาม แต่รัฐบาลควรจะดำเนินการกันทั้งประเทศ ส่วนผู้ที่ให้ข่าวเดี๋ยวผมจะดูว่าเป็นใคร และจะเรียกมาคุย ปรึกษาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป”นายสุชาติ กล่าว