กอ.รมน. จับมือท้องถิ่น หนุนเกษตรกร ผู้เลี้ยงโค-กระบือ ใช้น้ำหมักจุลินทรีย์ชีวภาพ รักษาแผลจากติดเชื้อจากโรค ลัมปี สกิน หลังให้เกษตรกรในพื้นที่อำเภอบ้านด่าน ทดลองใช้แผลแห้งเร็ว ภายใน 4-5 วัน ขณะนายก อบต.วังเหนือ เร่งจัดหาน้ำหมักจุลินทรีย์ชีวภาพ ให้ทุกหมู่บ้าน ลดค่าใช้จ่ายของเกษตรกร วันนี้ (7 ก.ค. 64 ) ที่โดมอเนกประสงค์ องค์การบริหารส่วนตำบลวังเหนือ อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ พล.ต.จิรวัฒน์ พันธ์สวัสดิ์ รองผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการที่ 4 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พร้อมด้วย พ.อ.ถกล มักการุณ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดบุรีรัมย์ นายเอกสิทธิ์ สองเมือง นายอำเภอบ้านด่าน และ นายสัญญา ชาญวิเศษ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลวังเหนือ ลงพื้นที่ติดการใช้จุลินทรีย์ชีวภาพ (น้ำหมักพิทักษ์โลก) รักษาบาดแผลที่เกิดจากการติดเชื้อโรค ลัมปี สกิน ในโค-กระบือ พร้อมสาธิตขยายผลให้เกษตรกร ผู้เลี้ยงโค-กระบือ นำไปรักษาแผลที่ติดเชื้อ และฉีดพ่นบริเวณคอกสัตว์ เพื่อลดการเกิดแมลงที่เป็นพาหะนำโรค หลังจากที่ได้ให้เกษตรกรผู้เลี้ยงโค-กระบือ จำนวน 7-8 ราย ในพื้นที่ตำบลวังเหนือ อ.บ้านด่าน ที่มีสัตว์ป่วยได้ทดลองใช้ พบว่า แผลที่เกิดจากการติดเชื้อแห้งเร็ว และตกสะเก็ด ภายใน 4-5 วัน และสัตว์เลี้ยงมีการการดีขึ้น โดยได้รับความสนใจจากเกษตรกรที่ประสบปัญหาจากโรคลำปี สกิน เป็นจำนวนมาก โดยได้ลงพื้นที่ติดตามไปยังคอกสัตว์ของเกษตรกร ที่ได้ทดลองใช้น้ำมักในการรักษาแผลฯ ต่างก็บอกว่า ใช้แล้วได้ผลดี ซึ่งใช้ได้ทั้งฉีดเป็นละอองฝอยไปที่บริเวณแผล หรือจะใช้ผ้าสะอาด ชุบน้ำน้ำจุลินทรีย์ชีวภาพแล้วไปลูบบริเวณที่มีบาดแผล แผลก็จะตกสะเก็ดแห้ง ภายใน 4-5 วัน และยังนำไปฉีดพ่นบริเวณคอกสัตว์ ก็จะลดการเกิดแมลงที่เป็นพาหะนำโรคได้ดีอีกด้วย ด้านนายสัญญา ชาญวิเศษ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลวังเหนือ อำเภอบ้านด่าน กล่าวว่า โรค ลัมปี สกิน ในโค-กระบือ เป็นโรคระบาดสัตว์ที่สร้างความเสียหายให้เกษตรกรเป็นอย่างมาก หลังจากที่มีการทดลองใช้น้ำหมักจุลินทรีย์ชีวภาพแล้ว อาการป่วยของโค-กระบือ เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นตามลำดับ ซึ่งจะดำเนินการขยายผลต่อยอดจัดหาน้ำหมักจุลินทรีย์ชีวภาพ พร้อมภาชนะบรรจุให้ทุกหมู่บ้านอย่างเพียงพอ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของเกษตรกรในพื้นที่ต่อไป