ก้าวไกล ซัด “บิ๊กตู่” มลพิษเผาไหม้ประเทศ จี้ส่วนกลางดูแลปชช.-คนงานแคมป์ได้รับผลกระทบ เหตุรง.กิ่งแก้วระเบิด บีบตัดงบกองทัพซื้อเครื่องป้องกันภัยให้จนท.-อาสาสมัคร
เมื่อวันที่ 7 ก.ค. ที่รัฐสภา ส.ส.พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ปีกแรงงาน นำโดย นายวุฒินันท์ บุญชู ส.ส.สมุทรปราการ นายทวีศักดิ์ ทักษิณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ น.ส.วรรณวิภา ไม้สน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และน.ส.สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา ส.ส.นครปฐม แถลงเรียกร้องความผิดชอบของภาครัฐต่อกรณีไฟไหม้โรงงานหมิงตี้ เคมีคอล จำกัด อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ และกรณีการไม่ยอมโยกย้ายแรงงานจากพื้นที่อพยพ
โดยนายวุฒินันท์ กล่าวว่า ในสถานการณ์ตลอด 3 วันที่ผ่านมาต้องขอชื่นชม 1.อบต.บางพลีใหญ่ ที่ให้การดูแลโดยการเปิดศูนย์ผู้ประสบภัยจำนวน 7 แห่ง 2.ท้องที่ ที่มีนายอำเภอเป็นแม่งานและประสานงานกับท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม ตนขอเรียกร้องให้ส่วนกลางลงมาดูแล เพราะเมื่อวานและเมื่อเช้าฝนตกทำให้มีสารปนเปื้อนไหลลงมาในแม่น้ำลำคลอง ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นชุมชนหนาแน่น และห่างออกไปไม่ไกลในรัศมี 5-10 กิโเมตร มีพื้นที่เกษตรกรรมที่ทำบ่อกุ้ง เลี้ยงปลา และมีสวนมะม่วง จึงอยากให้หน่วยงานส่วนกลางลงไปดูแล นอกจากนี้ อยากให้ดูแลเรื่องเงินชดเชยค่าเสียหายที่เกิดกับบ้านเรือน ทั้งที่เป็นบ้านเรือนปลูกเองและบ้านเรือนที่มีประกัน โดยอยากให้ส่วนกลาง เช่น สมาคมวิศวกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมประกันภัย และกระทรวงการพัฒนาสังคมและ ความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เข้ามาดูแลและให้คำแนะนำประชาชนที่ได้รับผลกระทบว่าต้องดำเนินการอย่างไร และจะได้รับเงินช่วยเหลือผ่านช่องทางหรือวิธีการใดบ้าง
ด้านนายทวีศักดิ์ กล่าวว่า ตนอยากสะท้อนไปยังรัฐบาลว่าทุกครั้งที่มีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้น ไม่มีครั้งไหนเลยที่เรานำไปเป็นบทเรียน โดยเฉพาะเรื่องการจัดการและการประกาศอพยพ โดยก่อนหน้านี้ ศบค. ได้ออกมาตรการล็อกดาวน์แคมป์คนงาน ทำให้มี 3-4 แคมป์คนงานที่อยู่ในรัศมี 5 กิโลเมตร ที่เกิดภัยถูกล็อกดาวน์ไปด้วยรวมถึงห้ามเคลื่อนย้ายออก อย่างไรก็ตาม หัวหน้าแคมป์คนงานได้ประสานมายังตน จึงอยากสะท้อนไปยังรัฐบาลว่าระหว่างวิกฤตที่เกิดขึ้นกับการล็อกดาวน์ที่มีระยะเวลาเป็นเดือนๆ ท่านไม่น่าทำกับแรงงานเช่นนี้ ท่านควรมองว่าสิ่งไหนจำเป็นก่อนหลัง ต้องประเมินระหว่างล็อกดาวน์กับชีวิตของเขา ท่านจะเอาอะไรก่อน ทั้งนี้ จากที่ทราบข้อมูล กอ.รมน.จะเป็นผู้วิเคราะห์หน้างานทุกอย่าง ตนอยากถามว่าท่านเก่งทุกอย่างเลยหรือ ในสถานการณ์เช่นนี้เหตุใดจึงไม่มีการตั้งกองอำนวยการขึ้นมาควบคุมและดูแลสถานการณ์
ขณะที่ น.ส.วรรณวิภา กล่าวว่า ตนมีข้อเรียกร้องเกี่ยวกับการช่วยเหลือเยียวยาประชาชน คือ 1.การแจ้งเตือนประชาชนล้มเหลวมาก เหตุเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงเวลาตี 3 แต่กลับไม่มีการแจ้งเตือนประชาชน จนประชาชนออกมาทำงาน ทำให้เกิดการกระจุกตัวในซอยกิ่งแก้วจำนวนมากเนื่องจากคนเข้าออก 2.ขาดการประสานงานที่ชัดเจนจากหน่วยงานของรัฐว่าจะดูแลและเยียวยาประชาชนอย่างไร รัฐมนตรีลงพื้นที่ไปชี้นิ้วสั่งนู่นสั่งนี่ได้แล้วทำไมไม่ไปสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลคนที่ติดอยู่ในแคมป์คนงาน จนถึงขณะนี้ยังไม่มีใครไปตรวจสารเคมีในร่างกายของเขาเหล่านั้นเลย ท่านต้องกล้าตัดสินใจและนำคนงานเหล่านี้ออกมาตรวจร่างกายว่าจากการสูดดมสารพิษในอากาศเข้าไปนั้น ค่าสารพิษในร่างกายเกินหรือไม่ การที่ท่านทำเช่นนี้เหมือนเป็นการซ้ำเติมแรงงานซ้ำอีกจากที่ท่านได้ล็อกดาวน์ไปแล้ว ดังนั้น ท่านต้องเยียวยาพวกเขาเป็น 2 เท่า ไม่ใช่อ้างว่าเยียวยาช่วงโควิดไปแล้ว
น.ส.สุทธวรรณ กล่าวว่า 1.พรรคก้าวไกลขอเรียกร้องรัฐบาลทบทวนจัดงบประมาณให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ให้สอดคล้องกับขนาดชุมชนเมืองที่เปลี่ยนแปลงไป 2.วางระบบในการสื่อสารและเคลื่อนย้ายประชาชนให้มีประสิทธิภาพมากกว่านี้ 3.ปรับลดงบประมาณที่ไม่จำเป็น เช่น งบประมาณที่กองทัพนำไปซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ แล้วนำงบเหล่านั้นมาจัดซื้ออุปกรณ์ความปลอดภัยให้เจ้าหน้าที่และอาสาสมัคร 4.ควรพิจารณาตรวจสอบกิจการที่เกี่ยวข้องกับขยะและพลังงานที่ได้รับการยกเว้นจากกฎหมายผังเมือง ตามประกาศ คสช. ที่ 4/2559 ว่ามีมาตรฐานความปลอดภัยหรือไม่ มีการเตรียมพร้อมในการระงับเหตุที่เกิดจากสารเคมีหรือไม่ รวมถึงตรวจสอบการขออนุญาตการประกอบกิจการและการต่ออายุการประกอบกิจการโรงงานด้วยว่ามีการคำนึงมาตรฐานความปลอดภัยหรือไม่ และ 5.พรรคก้าวไกลเคยเสนอร่างพ.ร.บ.การรายงานการปล่อยและการเคลื่อนย้ายสารมลพิษสู่สิ่งแวดล้อม แต่ถูกนายกรัฐมนตรีปัดตกไป ทั้งนี้ตนเห็นว่ามลพิษที่อันตรายที่สุด และกำลังเผาไหม้ประเทศอยู่ขณะนี้ เป็นมลพิษที่ชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี