วันที่ ก.ค.64 ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า... การควบคุมโรคระบาดอาศัยทั้ง ความร่วมมือของประชาชนในการรักษาวินัยการคัดกรองอย่างเข้มข้นเป็นระยะสม่ำเสมอเข้าถึงได้ทุกคนและวัคซีน
จีนใช้sinovac แต่ที่คุมได้เป็นเพราะมีการตรวจคัดกรองทุกคนเป็นระยะสม่ำเสมอทำให้สามารถแยกตัวคนที่ปล่อยเชื้อออกไปได้ และทันทีที่พบการติดเชื้อจะมีการตรวจอย่างเข้มข้นหลาย ล้านคนภายในระยะเวลาไม่กี่วัน ดังนั้นวัคซีน จะปฎิบัติตัวเป็นตัวช่วยทำให้อาการไม่มากแม้ติดเชื้อ และแม้ว่าจะป้องกันการติดเชื้อได้ไม่ดีเท่าวัคซีนอื่นแต่การคัดกรองดีเยี่ยมทำให้ชดเชยประเด็นนี้ไป พร้อมกับมีการปฏิบัติตามคำสั่งทางการอย่างเคร่งครัด
เช่นกัน ประเทศที่ใช้วัคซีนที่ถือว่าดีและมีประสิทธิภาพสูงที่สุด เช่นไฟเซอร์ โมเดนา แต่ถ้าเริ่มไม่มีวินัยและมีไวรัสที่ดื้อวัคซีน การระบาดก็จะกลับเป็นขึ้นมาใหม่ วนเวียนอยู่ตามเดิมแม้ว่าการระบาดจะไม่รุนแรงเท่าเก่าแต่ในที่สุด วัคซีนเองจะพัฒนาจนถึงขีดที่ครอบคลุมได้กว้างขวางมากขึ้นและหวังว่าจะสามารถสยบไวรัสจนกลายเป็นโรคประจำถิ่นไป ขึ้นอยู่กับว่าตามรายทางกว่าจะถึงจุดนั้น “เราสูญเสียไปมากเพียงใด”และ “พิสูจน์ให้เห็นอะไรได้มากมาย” ดังที่เห็นในปัจจุบันนี้ ในเรื่องวัคซีน ในเรื่องการการคัดกรอง และ เรื่องอื่นๆ