"ศบค."แถลงพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 5,420 เสียชีวิตเพิ่ม 57 ศพ เคาะแล้ว! ฉีดวัคซีน mRNA เป็นเข็ม 3 ให้บุคลากรการแพทย์ ระบุหากไฟเซอร์มาเร็วจะนำมาฉีดก่อน แต่หากมาช้าจะใช้แอสตร้าฯแทน เผย ปชช.ยังไม่จำเป็นฉีดเข็ม 3 ชี้จะได้วัคซีนรุ่นเก่า เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 6 ก.ค.4 นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทย ว่า พบผู้ติดเชื้อในประเทศ จำนวน 5,375 ราย แยกเป็น ติดเชื้อในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 37 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 8 ราย รักษาหายเพิ่มขึ้น3,586 ราย กลับบ้านแล้ว 227,023 ราย อยู่ระหว่างรักษาตัว 65,297 ราย แบ่งเป็นในโรงพยาบาล 32,906 ราย และโรงพยาบาลสนาม 32,391 ราย ในจำนวนนี้มีอาการหนัก (ปอดอักเสบ) 2,350 ราย ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ 643 รายมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 57 ศพ ยอดผู้เสียชีวิตสะสม 2,333 ศพ (ตั้งแต่ปี 2563)ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน294,653 ราย นับเป็นรายที่ 289,234-294,653ประเทศไทยเป็นอันดับที่ 65 ของโลก ด้าน ศาสตราจารย์ เกียรติคุณ นายแพทย์อุดม คชินทร ที่ปรึกษาศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ข้อสรุปในการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เข็มที่ 3 เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน หรือ บูสเตอร์ แล้ว โดยบุคคลกลุ่มแรกที่จะได้รับวัคซีนคือ กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ จำนวน 7 แสนคน และกลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เนื่องจากกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ที่ได้รับวัคซีน ซิโนแวค ครบ 2 เข็ม ซึ่งปัจจุบันมีระยะห่าง 3-4 เดือนแล้ว จึงเหมาะสมที่จะได้รับวัคซีนบูสเตอร์ เพื่อรับมือกับโควิดสายพันธุ์เดลตา "การจัดสรรวัคซีนบูสเตอร์สำหรับกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ หากวัคซีนไฟเซอร์ 1.5 ล้านโดสจากสหรัฐส่งมาได้เร็ว ก็จะนำมาฉีดให้ก่อน แต่หากวัคซีนสหรัฐมาช้า ก็จะนำวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าหรือ วัคซีนชนิด mRNA มาฉีดให้ก่อน สำหรับคนทั่วไปที่ฉีดครบ 2 เข็มแล้วไม่ว่าชนิดไหน ที่จะไปจองเข็ม 3 ชนิด mRNA เนื่องจากกรณีที่ฉีดซิโนแวค พบว่าภูมิคุ้มกันจะลดลดประมาณครึ่งหนึ่งช่วง 3-4 เดือน หลังฉีดเข็มที่ 2 แล้ว ส่วนคนฉีดแอสตร้าฯ ค่าดังกล่าวจะลดลงในช่วง 6 เดือน ดังนั้น ไม่จำเป็นต้องไปจองวัคซีนชนิด mRNA เพื่อมาฉีดเป็นเข็มที่ 3 เพราะหากดูการทิ้งห่างของเข็ม 2 และเข็ม 3 จะได้วัคซีนรุ่นเก่า จึงอยากให้รอวัคซีนรุ่นใหม่ที่เร็วสุดปลายปีนี้หรือปีหน้า ซึ่งจะครอบคลุมสายพันธุ์และปลอดภัยมากขึ้น" ศาสตราจารย์ เกียรติคุณ นายแพทย์อุดม กล่าวอีกว่า การบูสเตอร์จะใช้เฉพาะคนที่มีความเสี่ยงสูงที่ไปสัมผัส หรือไปเสี่ยงกับผู้ติดเชื้อ ซึ่งกลุ่มแรก คือ บุคลากรทางการแพทย์ และกลุ่มสองผู้ป่วยโรคเรื้อรัง สำหรับ บูสเตอร์โดสมีความสำคัญแน่นอน แต่ขอกรุณาอย่าไปลดประสิทธิภาพวัคซีนซิโนแวค เพราะสามารถลดเจ็บป่วยรุนแรง และเสียชีวิตได้