พาณิชย์ เดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจภาคบริการ สนับสนุนนโยบาย ครัวไทยสู่ครัวโลกพร้อมเปิดรับสมัครร้านอาหารไทยรายใหม่เพื่อรับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ถึงวันที่ 15 ก.ค. 64 กระทรวงพาณิชย์ เดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศสู่ภาคบริการมากขึ้น สนับสนุนนโยบาย ครัวไทยสู่ครัวโลก สร้างฐานการผลิตอาหารโลกเป็นที่หนึ่ง คำนึงมาตรฐานสากลเป็นหลัก มีคุณภาพได้มาตรฐาน สร้างความเชื่อมั่นระยะยาวให้ธุรกิจอาหารไทย พร้อมจับมือ 6 เดลิเวอรี และเพจรีวิวอาหารชื่อดังช่วยผู้ประกอบการประชาสัมพันธ์ร้านอาหารกระตุ้นตลาดอีกทางหนึ่ง ดีเดย์!!! เปิดรับสมัครร้านอาหารไทยรายใหม่เพื่อรับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ตั้งแต่บัดนี้ - 15 กรกฎาคม 2564 นี้ ทาง www.dbd.go.th และ Facebook : Thai select thailand นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์) มีนโยบายสนับสนุนเศรษฐกิจของประเทศไปสู่ภาคบริการมากขึ้น รวมทั้ง ให้ความสำคัญต่อการขับเคลื่อนนโยบายครัวไทยสู่ครัวโลกมาอย่างต่อเนื่องโดยส่งเสริมและผลักดันให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตอาหารอันดับ 1 ทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลกที่คำนึงถึงมาตรฐานสากลเป็นหลักไม่ว่าจะอยู่ต่างประเทศหรือในประเทศไทยก็สามารถหาอาหารไทยที่มีคุณภาพได้มาตรฐานรับประทานได้ที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์มีการส่งเสริมผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหารไทยให้ใส่ใจด้านการบริการ รสชาติ และความมีคุณภาพ จึงได้กำหนดให้มีตราสัญลักษณ์ Thai SELECT เพื่อสร้างการจดจำและเป็นสัญลักษณ์ที่การันตีถึงคุณภาพมาตรฐานของอาหารไทย โดยอาหารไทยได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก ตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ซึ่งใช้รับรองมาตรฐานคุณภาพร้านอาหารไทยในต่างประเทศได้รับความเชื่อมั่นจากผู้บริโภคในต่างประเทศยาวนานกว่า 20 ปี อธิบดีฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ต่อยอดตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ที่ได้รับความนิยมจากต่างประเทศมาดำเนินการต่อในประเทศไทย จนถึงปัจจุบันเป็นปีที่ 4 ที่ได้ใช้ตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ในประเทศ โดยมีร้านอาหารที่ได้รับตราสัญลักษณ์ฯ แล้วจำนวน 940 ร้าน กระจายอยู่ในทุกจังหวัดทั่วประเทศ และมีการบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อส่งเสริมพัฒนาและขับเคลื่อนธุรกิจอาหารไทยให้มีความแข็งแกร่งเป็นที่ยอมรับแก่สาธารณชนทั่วไปมาอย่างต่อเนื่อง และในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ธุรกิจร้านอาหารของไทยได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก ส่วนหนึ่งจำต้องปิดกิจการไป อีกส่วนหนึ่งแม้จะสามารถประคับประคองให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้ และกลับมาเปิดร้านได้อีกครั้ง แต่ก็จำเป็นต้องมีการบริหารจัดการร้านค้าตามแนววิถีชีวิตใหม่ (New Normal) และต้องเร่งดำเนินการประชาสัมพันธ์ร้านค้าให้กลับมามียอดขายที่ดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลถึงความอยู่รอดของธุรกิจในอนาคต กรมฯ จึงได้ร่วมมือกับธุรกิจฟู้ดเดลิเวอรี 6 ราย ประกอบด้วย LINEMAN, Foodpanda, Grab, Gojek, True ID และ Robinhood รวมทั้ง เพจรีวิวอาหารชื่อดังที่ได้รับความนิยม มียอดผู้ติดตามกว่า 1,000,000 คน ช่วยประชาสัมพันธ์ร้านอาหาร Thai SELECT เพื่อสร้างการรับรู้และกระตุ้นตลาดอีกทางหนึ่ง รวมทั้งจัดแคมเปญพิเศษในการกระตุ้นยอดขายให้แก่ร้านอาหารด้วย ทั้งนี้ ตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ในประเทศ มีทั้งหมด 3 ประเภท ได้แก่ 1) Thai SELECT SIGNATURE มอบให้แก่ร้านอาหารไทยที่มีคุณภาพยอดเยี่ยม จำหน่ายอาหารไทยแท้ ตกแต่งร้านสวยงาม และมีการบริการที่เป็นเลิศ โดยต้องได้รับคะแนนการประเมินมากกว่า 90 คะแนน 2) Thai SELECT CLASSIC มอบให้แก่ร้านอาหารไทยที่มีคุณภาพดีเยี่ยม และจำหน่ายอาหารไทยต้นตำรับคุณภาพดี โดยต้องได้รับคะแนนการประเมินระหว่าง 75 - 89 คะแนน 3) Thai SELECT UNIQUE มอบให้แก่ร้านอาหารไทยที่มีคุณภาพดีเยี่ยม จำหน่ายอาหารไทยต้นตำรับคุณภาพดี และมีรายการอาหารที่อนุรักษ์อัตลักษณ์ท้องถิ่น โดยต้องได้รับคะแนนการประเมินระหว่าง 75 - 89 คะแนน ขณะนี้ กรมฯ กำลังเปิดรับสมัครร้านอาหารไทยรายใหม่เพื่อรับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ประจำปี 2564 โดยคุณสมบัติร้านอาหารไทยที่จะเข้ารับการประเมินเพื่อรับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ประกอบด้วย 1) เปิดให้บริการมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือน 2) เป็นร้านอาหารที่มีจำนวนที่นั่งภายในร้านไม่ต่ำกว่า 40 ที่นั่งและมีพนักงานให้บริการ 3) มีรายการอาหารไทยไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของรายการอาหารทั้งหมด โดยร้านอาหารไทยในประเทศที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT แล้ว จะมีอายุการใช้ตราสัญลักษณ์เป็นเวลา 3 ปี และสามารถสมัครต่ออายุตราสัญลักษณ์ได้อีกคราวละ 3 ปี โดยหากร้านอาหารมีมากกว่า 1 สาขา แต่ละสาขาต้องแยกยื่นขอเข้ารับการประเมินฯ เพื่อรับตราสัญลักษณ์ฯ จึงขอเชิญชวนผู้ประกอบการร้านอาหารไทยสมัครเข้ารับตราสัญลักษณ์ฯ ได้ตั้งแต่บัดนี้ - วันที่ 15 กรกฎาคม 2564 ทาง www.dbd.go.th และ Facebook : Thai select Thailand สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองธุรกิจบริการ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ โทรศัพท์ 0 2547 5158 และ e-Mail : [email protected] อธิบดีฯ กล่าวทิ้งท้าย