จากเหตุการณ์ไฟไหม้ ภายในโรงงานผลิตเม็ดโฟมและพลาสติก ซอยกิ่งแก้ว 21 ถนนกิ่งแก้ว ของบริษัท หมิงตี้ เคมิคอล จำกัด เลขที่ 87 หมู่ 15 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 31 คน เสียชีวิต 1 คน รวมทั้งสร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง โดย “สยามรัฐ ออนไลน์” ได้จัดทำไทม์ไลน์สรุปเหตุการณ์ ดังนี้ เวลา 03.00 น. ได้เกิดเหตุไฟไหม้ และเกิดเสียงระเบิดอย่างรุนแรง ภายในโรงงานผลิตเม็ดโฟมและพลาสติก เวลา 03.12 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ภายโรงงาน พร้อมประสานรถดับเพลิงและเจ้าหน้าที่กู้ภัยไปยังจุดเกิดเหตุ เวลา 03.20-09.00 น. เจ้าหน้าที่ดับเพลิง และเจ้าหน้าที่กู้ภัยจากหลายหน่วยงาน ระดมกำลังฉีดน้ำสกัดเปลวเพลิงที่โหมรุกไหม้อย่างรุนแรง แต่ไม่สำเร็จ รวมทั้งเกิดการระเบิดของถังสารเคมีขนาดใหญ่ เป็นระยะๆ โดยแรงระเบิดทำให้โรงงาน และบ้านเรือนของประชาชน ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก เวลา 09.00 น. ได้มีการสั่งหยุดใช้น้ำ และเริ่มใช้โฟม เข้าควบคุมเพลิงแต่ไม่เป็นผล กลุ่มควันสีดำ จากโรงงานยังพวยพุ่งบนท้องฟ้า เวลา 10.00 น. ผู้ว่าฯ สมุทรปราการ ออกประกาศให้อพยพชาวบ้านในรัศมีรอบโรงงาน 5 กิโลเมตร เนื่องจากยังไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ และเกรงว่าประชาชนในพื้นที่ จะไม่ปลอดภัย จากแรงวระเบิดของถังสารเคมี เวลา 10.10 น. สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ส่งกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพร้อมด้วยเครื่องจักรกลสาธารณภัย เข้าสนับสนุนการดับเพลิง และนำรถหอน้ำ 37 เมตร รถกู้ภัยเคลื่อนที่เร็ว รถบรรทุกน้ำช่วยดับเพลิง รถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัยเพื่อขนโฟมดับเพลิง เฮลิคอปเตอร์ KA-32 ซึ่งกองทัพบก (ทบ.) ร่วมสนับสนุน จำนวน 2 ลำ ปฏิบัติงานร่วมกับหน่วยงานและอาสาสมัครที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เวลา 13.00 น.ได้เกิดการระเบิดและไฟไหม้อย่างรุนแรง ระหว่างเจ้าหน้าที่ชุดดับเพลิงภาคพื้นดินเข้าดับไฟ ทำให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเมืองลัดหลวง จ.สมุทรปราการ เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 4 ราย ขณะเข้าควบคุมเพลิง เวลา 13.40-15.00 น. เจ้าหน้าที่ นำเฮลิคอปเตอร์ KA-32 เข้าสนับสนุนพ่นเม็ดโฟม 300 ลิตรผสมน้ำ 3,000 ลิตร เทแบบเต็มพื้นที่ พร้อมสนธิกำลังกับหน่วยงานภาคพื้นดินเข้าฉีดพ่นโฟมดับเพลิง โดยมี กทม. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำยานยนต์ดับเพลิง LUV-60 เข้าฉีดพ่นเสริมกำลังดับไฟ ซึ่งจะปฏิบัติการเป็นระยะ เวลา 16.35 น. เจ้าหน้าที่ได้ประเมินสถานการณ์ของทีมภาคพื้นดิน พบว่าการลุกไหม้ลดลง แต่ยังมีบางส่วนกลับมาปะทุไหม้ จึงได้ประสาน นำทีมปฏิบัติการภาคพื้นดิน โดยสนธิกำลังเข้าปฏิบัติการดับไฟ ทั้งหน่วยดับเพลิงของกทม.และเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ เวลา 18.00 น. ศูนย์ติดตามสถานการณ์ ปภ. ระบุ จ.สมุทรปราการได้ตั้งจุดอพยพกรณีเหตุไฟไหม้โรงงาน 7 จุด ได้แก่ โรงเรียนเตรียมปริญญานุสรณ์ อบต.บางพลีใหญ่ (หลังเก่า) และวัดบางพลีใหญ่กลาง โรงเรียนบางกระบือ ศาลพ่อหลวง วัดบางโฉลงใน วัดบางโฉลงนอกวัดบางพลีใหญ่ โดยมีผู้อพยพจำนวน 1,120 คน และยังทยอยเข้าจุดอพยพอย่างต่อเนื่อง เวลา 18.40 น. เจ้าหน้าที่กรมควบคุมมลพิษ ระบุ ผลการตรวจคุณภาพอากาศรอบโรงงาน อยู่ในเกณฑ์ค่าขีดจำกัดการรับสัมผัสสารเคมีทางการหายใจแบบเฉียบพลัน และเป็นอันตรายต่อระบบการหายใจ เวลา 20.00 น.ผู้ว่าฯ สมุทรปราการ แถลงความเสียหายจากเหตุการณ์ไฟไหม้และการระเบิดของถังเคมี โดยมีประชาชนเข้าแจ้งความจากความเสียหาย ที่สภ.บางแก้ว จำนวน 177 คน และมีผู้เสียชีวิต 1 คนและบาดเจ็บ 39 คน เวลา 05.30 น.ของวันที่ 6 ก.ค.64 เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมเพลิงได้ทั้งหมดแล้ว แต่ยังระดมปูพรมฉีดโฟม ปกคลุมบ่อสารเคมี ไม่ให้ไฟติดขึ้นมาได้อีก เวลา 06.10 น. ได้เกิดเปลวเพลิงลุกไหม้ขึ้นอีก บริเวณรั้วปูนด้านนอกโรงงาน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เข้าควบคุมเพลิงไม่ให้ไฟลามและสามารถดับไฟได้หมดทุกจุดแล้ว