ผู้เชี่ยวชาญให้ปชช.รัศมี 5 กม.ไปอยู่เหนือลม แต่หากต้องอยู่ใกล้ต้องใส่หน้ากาก N 95 หากแน่นแสบจมูกต้องรีบออกมาในที่อากาศถ่ายเททันที หากอาการไม่ดีต้องรีบพบแพทย์ด่วน ทั้งยังต้องระวังน้ำเสียจากการดับไฟจะปนเปื้อนสารเคมีลงแหล่งน้ำลำคลองใกล้เคียง ระบุโรงงานผลิตพลาสติกขึ้นรูปตั้งมาแต่ปี 32 ก่อนที่จะมีชุมชน หมู่บ้านจัดสรรมาตั้งตามมาโดยรอบ ชี้ต้องรอผลสอบรง.ปฏิบัติตามข้อกำหนด ESA หรือไม่ นายสนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการสิ่งแวดล้อมไทย โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กระบุ "โรงงานหมิงตี้ เคมีคอล ซอยกิ่งแก้ว 21 ที่ระเบิดก่อความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมสูงในขณะนี้ได้ทำการผลิต EPS หรือพลาสติกสำหรับขึ้นรูปโดยมีสารตั้งต้นคือ 1.1 สาร styrene monomer+ความร้อนจากก๊าซ Propanจะได้polysyrene หรือ PS คือพลาสติกโฟม 1.2.นำโฟม PS +ก๊าซ Pentane +ความร้อนจากไอน้ำ(C5H12)คือเกิดปฎิกริยา polymerization ทำให้ สาร PS ขยายตัว (Blowing Agent)กลายเป็นExpanded polystyrene Foam (EPS)หรือพลาสติกสำหรับขึ้นรูปเพื่อเป็นวัสดุต่างๆ (Molding)เป็นผลิตภัณฑ์ต่อไป 2.ดังนั้นสารเคมีที่ออกมาจากการระเบิดหรือเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้รัศมี 5-10 กม.คือ ควันดำหรือฝุ่น PM10 และ PM2.5 ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ไอระเหยของสาร Styrene monomer ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งกลุ่ม2B 3.ประชาชนที่อาศัยรัศมี 5 กม.ควรอพยพไปอยู่ทิศเหนือลม หากยังอยู่ใกล้ต้องสวมหน้ากาก N95 หรือหน้ากากที่ฉาบด้วยสาร Activated carbon หรือหน้ากากกรองก๊าซของโรงงาน ส่วนหน้ากากอนามัยป้องกันไม่ได้ ต้องสวมแว่นตา เมื่อหายใจเข้าไปมีอาการแน่นจมูก แสบจมูกต้องรีบออกมาที่อากาศถ่ายเทสะดวกทันที ล้างตาด้วยน้ำสะอาด 2-3 นาที หากหายใจไม่ออก แน่นหน้าอกต้องไปพบแพทย์ทันที 3.ผลการตรวจวัดหากพบค่าสาร Styrene monomer เกิน 100 ส่วนในล้านส่วน ต้องรีบออกมาโดยด่วนเพราะเกินค่ามาตรฐานความปลอดภัยที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ 4.ต้องระวังน้ำเสียที่เกิดจากการดับเพลิงจะปนเปื้อนสารเคมีลงสู่ลำคลองใกล้เคียงจะเป็นอันตรายต่อระบบนิเวศทางน้ำด้วย สัตว์น้ำใกล้เคียงต้องงดจับมาเพื่อการบริโภค 5.โรงงานนี้ตั้งมาตั้งแต่ปี 2532 ต่อมาพื้นที่เจริญขึ้นมากทำให้มีบริษัท ชุมชน หมู่บ้านจัดสรรเกิดขึ้นจำนวนมากและมาตั้งใกล้เคียง อย่างไรก็ตาม โรงงานเองก็ต้องปฎิบัติตามข้อกำหนดในรายงาน ESA หรือรายงานสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยที่เสนอไว้ โดยส่งให้กรมโรงงานและอุตสาหกรรมจังหวัดปีละ 2 ครั้งถือเป็นการ Declare ตัวเอง ซึ่งหน่วยงานราชการก็ต้องไป audit เรื่องสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยทุกปีด้วยเช่นกัน ดังนั้น กรณีนี้เกิดจากการที่โรงงานปฎิบัติไม่เป็นไปตามข้อกำหนดหรือไม่ ต้องสอบสวนกันต่อไป ขอบคุณภาพจากเพจ ข่าวสารเมืองปราการV2