กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เดินหน้าสร้างเครือข่ายครูบัญชีอาสา หวังเป็นกลไกลถ่ายทอดความรู้การทำบัญชีแก่กลุ่มวิสาหกิจชุมชน/สหกรณ์ พร้อมหนุนใช้หลักธรรมาภิบาลในระบบบัญชี นางกฤษณา กฤษณวรรณ รองอธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังติดตามผลดำเนินงานด้านการส่งเสริมบัญชีครัวเรือนและส่งเสริมการใช้หลักธรรมาภิบาลในระบบบัญชีในพื้นที่จังหวัดสุราษฏร์ธานี เมื่อเร็วๆ นี้ว่า ปัจจุบันกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ได้ความสำคัญในการสร้างครูบัญชี หรืออาสาสมัครเกษตรด้านบัญชี ทำหน้าที่แทนกรมตรวจบัญชี สหกรณ์ในการเป็นวิทยากร วิทยากรผู้ช่วย เพื่อสอนแนะ กระตุ้นการเรียนรู้ และติดตามผลการทำบัญชีของ เกษตรกร รวมถึงการสร้างเครือข่ายถ่ายทอดความรู้ แก่เกษตรกรในชุมชนของตน และพื้นที่ต่างๆ ในจังหวัดอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเพื่อเป็นการต่อยอดการรณรงค์การทำบัญชีให้เกิดขึ้นในวิถีชีวิตของเกษตรกรสู่ครัวเรือนและขยายผลในระดับชุมชน ซึ่งทำให้เกิดตัวอย่างของเกษตรกรที่สามารถนำองค์ความรู้ทางบัญชีมาเป็นเครื่องมือในการสร้างความแข็งแกร่งให้กับตนเองได้ รวมทั้งยังมีการทำงานเป็นเครือข่ายร่วมกันระหว่างกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ และครูบัญชีซึ่งจะช่วยเสริมสร้างให้เกษตรกรได้ใช้บัญชีต้นทุนอาชีพไปประกอบการวางแผนธุรกิจในครัวเรือนของตน ซึ่งเป็นการพัฒนากระบวนการเรียนรู้ที่เน้นหลักภูมิปัญญาชาวบ้านและสร้างความเข้มแข็งในชุมชน และเพื่อให้เกษตรกรไทยทั่วทุกภูมิภาคของประเทศมีการทำบัญชีกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นภูมิคุ้มกันในการประกอบอาชีพให้เข้มแข็งไม่ว่าจะอยู่ในภาวะเศรษฐกิจเช่นใดก็ตาม นางกฤษณา กฤษณวรรณ รองอธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ รองอธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวว่า ปัจจุบันกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้พัฒนาภูมิปัญญาทางบัญชีแก่เกษตรกรขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง จากบัญชีรับจ่ายในครัวเรือนที่ได้สอนแนะไปแล้ว 5.6 ล้านครัวเรือน มาสู่การทำบัญชีต้นทุนอาชีพ เพื่อเสริมสร้างให้เกษตรกรรู้จักใช้ข้อมูลจากการบันทึกบัญชีมาวางแผนการผลิต ลดต้นทุนการผลิต เกิดการเปรียบเทียบ หรือปรับเปลี่ยนอาชีพ เพราะทำให้รู้กำไร-ขาดทุนและสามารถเพิ่มรายได้ของตนเอง โดยมีเกษตรกรเป้าหมายจำนวน 2.4 ล้านคน ภายในระยะเวลา 6 ปี (2554-2559) นอกจากนี้กรมตรวจบัญชียังให้ความสำคัญกับการส่งเสริมใช้หลักธรรมาภิบาลในระบบบัญชีเพื่อสร้างระบบบัญชีที่เข้มแข็งควบคู่กัน เพื่อให้เกิดธรรมาภิบาลในองค์กรโดยใช้บัญชีเป็นตัวนำ นางกฤษณา กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้ สหกรณ์การเกษตรปฏิรูปที่ดินบ้านต้นมะพร้าว จำกัด นับเป็นสหกรณ์ตัวอย่างในการยึดหลักธรรมภิบาลในการบริหารจัดการธุรกิจและองค์กรจนประสบความสำเร็จ โดยบริหารงานโดยนำระบบคอมพิวเตอร์มาใช้ในการจัดเก็บข้อมูลสมาชิกและการดำเนินงานทุกๆธุรกิจ ถูกต้อง รวดเร็ว ตรวจสอบได้ทำให้เกิดความโปรงใส่ ตลอดจนใช้ข้อมูลทางบัญชีเพื่อการบริหารจัดการ จนได้รับรางวัลผู้จัดการดีเด่น ระดับภาค ประเภทสหกรณ์การเกษตร ประจำปี 2554 นอกจากนี้สหกรณ์จะทำการสำรวจความต้องการของสมาชิกก่อน ทำการสั่งซื้อสินค้ามาบริการสมาชิก ทำให้สมาชิกได้รับสินค้าตรงความต้องการและสหกรณ์ไม่ต้องรับภาระสินค้าเสื่อมสภาพในวันสิ้นปีทางบัญชี “ปัจจุบันสหกรณ์การเกษตรปฏิรูปที่ดินบ้านต้นมะพร้าว จำกัด มีธุรกิจหลักในการรวบรวมกล้วยหอมทองส่งให้กับบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (ร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟ เว่น )ระหว่าง มกราคม-สิงหาคม 2559 จำนวน 358.61 ตัน เป็นมูลค่า 7.92 ล้านบาท โดยในการทำธุรกิจกล้วยหอมทองของสหกรณ์แห่งนี้ยึดหลักการสร้างธรรมาภิบาลในระบบบัญชี กำหนดสมาชิกทุกคนของสหกรณ์จะต้องบันทึกบัญชีรับ-จ่ายเป็น เพื่อปลูกฝังและกระตุ้นให้สมาชิกเห็นความสำคัญของการทำบัญชีครัวเรือนและบัญชีต้นทุนอาชีพ” นางกฤษณา กล่าว