เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2564 นางสาวหิรัณยา บวรบุญญานนท์ เปิดเผยข้อเท็จจริงต่อสื่อมวลชนว่า ตามที่ข้าพเจ้าได้ไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2561 เวลา 16.45 น. ว่า “เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2561 เวลาประมาณ 10.30 นาฬิกา ว่า ข้าพเจ้าได้ถูกนางเอลดา ชัค ให้ไปพูดกับนักข่าวว่าเป็นพยานของนางเอลดา ชัค แต่ข้าพเจ้าไม่ได้จะยินยอมพูดตามที่บอก ข้าพเจ้าให้การว่า ตอนนั้นอยู่สภาวะจำยอม ข้าพเจ้าจึงมาแจ้งลงบันทึกไว้ว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องเป็นพยานตามข้างต้นแต่อย่างใด” ซึ่งข้อความที่ข้าพเจ้าแจ้งความดังกล่าวนั้น ไม่ตรงตามความเป็นจริง ซึ่งข้าพเจ้าขอแจ้งว่า ตามที่ข้าพเจ้าได้ไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองแม่ฮ่องสอน เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2561 เวลา 9.00 น. ว่า “ข้าพเจ้าอยู่ที่บ้านปางหมู คุณเอลดา ชัค ซึ่งข้าพเจ้าเรียกว่า แม่ คุณเอลดาฯ ได้มาทำบุญ 100 วัน ให้กับพ่อของเขาที่ปางหมู ต่อมา คุณเอลดาฯ ได้มาพูดเกลี้ยกล่อมให้ข้าพเจ้าอยู่ข้างคุณเอลดาฯ เพื่อจะไปใส่ร้ายปู่ (นายวิษณุ โพธิ์ขุน) กับแม่ต้อย (คือนางอัฐชราภรณ์ โพธิ์ขุน) ว่าได้ทำคุณไสยมนต์ดำ คุณเอลดาฯบอกกับข้าพเจ้าว่าได้ไปหาอาจารย์ที่กรุงเทพฯมาแล้ว (คืออาจารย์ด๊อกเตอร์เอพลังจิต) แก้คุณไสยฯเรียบร้อยแล้ว จะพาข้าพเจ้าไปแก้ของคุณไสยที่ไปมาด้วย ลูกชายของคุณเอลดาก็ได้มาเกลี้ยกล่อมให้ข้าพเจ้าไปให้ได้ ข้าพเจ้าจึงบอกไปว่า ข้าพเจ้ามีลูกน้อยจะทิ้งลูกไปได้อย่างไร ข้าพเจ้าจึงบอกกับคุณเอลดาฯว่าจะหาทางไปที่กรุงเทพฯเอง คุณเอลดาฯจึงได้โอนเงินค่าเดินทางจำนวน 2,000 บาท พอข้าพเจ้าได้เดินทางถึงเชียงใหม่ก็ได้โอนให้อีก 2,000 บาท ข้าพเจ้าจึงเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อไปเจอกับคุณเอลดาฯที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ซอย 14 แจ้งวัฒนะ และได้โทรนัดอาจารย์ฯ (คืออาจารย์ด๊อกเตอร์เอพลังจิต) มาหาประมาณ 11 โมง รอบที่ 1 และไปหาอาจารย์ อีกครั้งหนึ่ง ประมาณ 4 โมงเย็น ด้วยรถของลูกของคุณเอลดาฯ พอทำพิธีเสร็จเรียบร้อยได้กลับมานอนโรงแรมแห่งเดิมอีก 1 คืน พอตอนเช้าประมาณ ตี 4 ได้เดินทางแยกกับลูกคุณเอลดาฯ ข้าพเจ้าได้นั่งรถมากับคุณเอลดาเพื่อกลับอุตรดิตถ์ ข้าพเจ้าจึงบอกกับคุณเอลดาฯว่าพาข้าพเจ้าไปส่งที่ขนส่ง แต่คุณเอลดาฯไม่ได้พาไปส่ง กลับพาไปสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง พร้อมพานักข่าวเพื่อให้ข้าพเจ้าพูดใส่ร้ายปู่กับแม่ต้อย ตามสคริปที่ให้ข้าพเจ้าอ่าน จึงเกิดเป็นคลิปเสียงตามข่าว ข้าพเจ้ารู้สึกอึกอัด เครียด กังวล กดดัน ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรจึงต้องพูดตามที่ได้บอกให้พูดและคุณเอลดาฯได้เกลี้ยกล่อมให้ข้าพเจ้าไปหาตำรวจ พูดคุยกับตำรวจ แต่ข้าพเจ้าไม่ได้ไป คุณเอลดาฯจึงไม่พอใจข้าพเจ้า ได้พาข้าพเจ้าไปส่งที่ขนส่งอุตรดิตถ์ เพื่อเดินทางกลับแม่ฮ่องสอน ข่าวที่ได้ปรากฏขึ้นช่องทางทีวีตลอด ข้าพเจ้าประสงค์จะแจ้งว่าที่ได้พูดตามคลิป ข้าพเจ้าไม่ได้พูดออกมาจากความคิดของตน แต่ถูกสร้างขึ้นมาไม่ได้เป็นความจริงแต่ประการใด จึงมาแจ้งความบริสุทธิ์ใจต่อเจ้าหน้าที่ ” ซึ่งข้าพเจ้าขอยืนยันว่าข้อความที่ข้าพเจ้าแจ้งความดังกล่าวไม่ตรงต่อความจริง ในเหตุการณ์ข้างต้นได้มีการดำเนินคดีเป็นคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ36/2563 และ คดีอาญาหมายเลขดำที่ อ116/2563 ของศาลจังหวัดแม่ฮ่องสอน และด้วยเหตุที่ข้าพเจ้ากระทำลงไป ข้าพเจ้าขอขมาลาโทษต่อคุณเอลดา ชัค มา ณ ที่นี้ด้วย