เมื่อวันที่ 5 ก.ค. เวลา 12.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือศบค. กล่าวถึงผู้ป่วยที่รอเตียงทางศบค.จะปรับมาตราการนำคนเข้ารับการรักษาอย่างไร เพราะตอนนี้มีผู้สูงอายุเสียชีวิตรอเตียงและรอการรักษาจำนวนมาก ว่ายอมรับว่าจำนวนผู้ป่วยมาก และจำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้นมาหลายพัน เพราะติดเชื้อสายพันธุ์ Delta หรืออินเดีย ซึ่งไม่ใช่แค่ประเทศไทยที่เจอ แต่เห็นอีกหลายประเทศที่เพิ่มขึ้น เช่นประเทศอินโดนีเซีย เนื่องจากภาระดูแล 1 คนต้องใช้เวลา14 วัน ดังนั้นจำนวนของเตียงจึงกินพื้นที่จำนวนมาก ทางโรงพยาบาลจึงได้สำรองสำหรับผู้ป่วยสีแดงและเหลืองเท่านั้น ซึ่งมีความพยายามขยายเตียงกันอย่างเต็มที่ ส่วนที่ในจังหวัดภาคอีสานได้เถียงนาโมเดล หรือนอนที่วัด เพื่อที่จะแยกกัก หรือนำผู้ป่วยออกมา ส่วนเรื่องวัคซีน เช่นในประเทศอังกฤษแม้จะฉีดวัคซีนไปแล้วแต่ตัวเลขการติดเชื้อ 2 หมื่นกว่า เพราะฉะนั้นการฉีดก็ยังมีการติดวัคซีนถือเป็นข้อมูลที่ต้องเรียนรู้ร่วมกัน แต่อัตราการเสียชีวิตลดน้อยลงของกลุ่มผู้สูงอายุ และ7 กลุ่มโรคเรื้อรัง ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุขและกรมควบคุมโรคมีสถิติคนที่อายุมากกว่า 60 ปี ติดเชื้อ 10 คนตาย 1 คน คนที่อายุ 40-60 ติดเชื้อ 100 คนตาย 1 คน ส่วนคนที่อายุ 18-40 ปี ติดเชื้อ 1 พันคน ตาย 1 คน ดังนั้นวัคซีนที่จะมาล็อตที่จะมาจะต้องฉีดให้คนสูงอายุ และ 7 กลุ่มโรคเรื้อรังฉีดวัคซีนโดยเร็ว ก็จะพยุงให้ตัวเลขเหล่านี้ดีขึ้นได้ แต่อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับวัคซีนที่จะเข้ามา แต่เชื่อว่าจะสามารถลดลงได้ ดังนั้นขอให้ทุกคนดูแลสุขภาวะอนามัยของตัวเองให้ดี เพื่อที่จะไม่เป็นภาระให้กับบุคลากรทางการแพทย์