เมื่อวันที่ 5 ก.ค.64 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ หรือ ป.ป.ส. แถลงผลปฏิบัติการ "ยุทธการพิทักษ์ไทย ยึดทรัพย์ ตัดวงจรยาเสพติด" ครั้งที่3 ซึ่งขยายผลจากการจับกุม นางสาว เขมมิกา ใจปินตา หรือ เจ๊เหมย ตัวกลางในการโอนเงินค้ายาเสพติด โดยเข้าตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ จังหวัดนราธิวาส จังหวัดสมุทรปราการ และจังหวัดชลบุรี สามารถตรวจยึด อายัดทรัพย์สินได้รวมกว่า 1,060 ล้านบาท และจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมทางการเงินของเครือข่ายดังกล่าว คือนางสาว ดุลยลักษณ์ ว่องไวยนต์ / นางสาวตงเฉิน / นายสุชัย เครือแก้ว นอกจากนี้ยังสามารถจับกุมผู้ต้องหาที่ทำหน้าที่ขนส่งเฮโรอีนไปยังมาเลเซีย คือ นางสาว นีรา เจะเงาะ / นายมูฮามัอฟาอิส ยูโซะ / นายไฟโซ อาแว / จาดที่ศาลอนุมัติออกหมายจับ ทั้งหมด 10 คน โดยกลุ่มผู้ต้องหามีพฤติการณ์ทำหน้าที่โอนเงิน ผ่าน นางสาวเขมิกา เพื่อส่งต่อไปยัง นายหลง เจ้าของแหล่งผลิต ที่อยู่ในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ จังหวัดเชียงราย โดย นายหลง ได้ร่วมกับคนไทย เปิดบริษัทรับแลกเปลี่ยนเงินตรา เพื่อทำการฟอกเงินและโอนเงิน จากการค้ายาเสพติด อีกทั้งยังพบว่าเปิดบริษัทบังหน้า ถึง 8 แห่ง เนื่องจากไม่พบการเคลื่อนไหวของการทำธุรกรรมทางการเงินแต่อย่างใด นายสมศักดิ์ กล่าว่า ได้กำชับให้เร่งขยายผลเครือข่ายดังกล่าว โดยประสานไปยังทางการประเทศมาเลเซียเพื่อจับกุมเครือข่าย ที่เหลือ นอกจากนี้ให้สืบสวนสอบสวนไปยังต้นทาง เพื่อจับกุม นายหลง เจ้าของโรงงานผลิตยาเสพติด ซึ่งเป็นตัวการใหญ่ โดย ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 ถึง 5 กรกฎาคม 2564 ทาง ป.ป.ส. สามารถยึดทรัพย์สินคดียาเสพติดได้แล้ว กว่า 5,600 ล้านบาท จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ จำนวน 6,000 ล้านบาท ซึ่งมีเวลาปฏิบัติการเหลืออีก 3 เดือน จะจบปีงบประมาณ และคาดว่าจะสามารถดำเนินการยึดอายัดทรัพย์ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ นอกจากนี้ยังระบุว่า เน้นในการยึดอายัดทรัพย์สินเป็นหลัก เนื่องจากในอดีตที่ผ่านมามีการจับกุมยาเสพติดได้จำนวนมาก โดยได้มีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาพิจารณาถึงข้อกฎหมาย เพื่อมายึดอายัดทรัพย์ กับบุคคลที่เกี่ยวข้อง รวมถึงขบวนการค้ายาเสพติดต่อไป