ตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่มีการส่งเสริมเกษตรกรในทั่วทุกจังหวัดของประเทศไทย ให้มีการรวมกลุ่มแปลงใหญ่ขึ้น เพื่อให้เกษตรกรปลูกพืชที่มีคุณภาพและสร้างรายได้ สร้างอัตลักษณ์ผลไม้ประจำถิ่น ให้เป็นที่รับทราบโดยทั่วกันและสามารถต่อรองราคากับท้องตลาดได้อีกด้วย โดยจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีการส่งเสริมเกษตรกรให้รวมกลุ่มเป็นแปลงใหญ่ อย่างเช่น บ้านหนองผาจ้ำ ตำบลสบป่อง อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่รวมกลุ่มแปลงใหญ่มะม่วงน้ำดอกไม้ขึ้น มีสมาชิกกว่า 40 ราย ที่กว่าจะรวมตัวเป็นกลุ่มนั้นไม่ง่ายเลย เพราะสภาพพื้นที่ดินยังขาดความอุดมสมบูรณ์ ขาดองค์ความรู้ในการทำเกษตร สถานีพัฒนาที่ดินแม่ฮ่องสอน ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของเกษตรกร จึงได้ลงพื้นที่ให้ความรู้กับเกษตรกร ตรวจดินวิเคราะห์ดิน ใส่ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน และส่งเสริมเกษตรกรในการใช้ปุ๋ยหมัก น้ำหมักชีวภาพของกรมพัฒนาที่ดิน ที่นอกจากจะได้เพิ่มความอุดมสมบูรณ์ในดินแล้ว เกษตรกรยังสมารถลดต้นทุนการผลิตได้อีกด้วย นายจอมพล กฤษณสุวรรณ นักวิชาการเกษตรชำนาญการ สถานีพัฒนาที่ดินแม่ฮ่องสอน กล่าวว่าสำหรับด้านการดูแลเกษตรกรในแปลงใหญ่ สืบเนื่องจากนโยบายของรัฐบาล กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีการส่งเสริมให้เกษตรกรรายย่อยรวมกลุ่มกัน เพื่อทำการเกษตรแบบรูปแบบของแปลงใหญ่ เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตของเกษตรกร ผลผลิตได้คุณภาพ โดนมีหน่วยงานต่างๆ ได้เข้ามาดูแลบูรณาการร่วมกันกับสถานีพัฒนาที่ดินแม่ฮ่องสอน ดูแลในเรื่องของการให้ความรู้ การปรับปรุงบำรุงดิน อบรมให้ความรู้ในเรื่องของการจัดการดิน และสนับสนุนปัจจัยการผลิตในด้านต่างๆให้แก่เกษตรกรแปลงใหญ่ ทั้งนี้ แปลงใหญ่มะม่วงน้ำดอกไม้บ้านหนองผาจ้ำ เกษตรกรมีวิธีการดูแลต้นมะม่วงน้ำดอกไม้ โดยการหวานปุ๋ยหมักรอบทรงพุ่ม และกลบด้วยเศษตอซังพืชเป็นการเพิ่มความชุ่มชื่นบริเวณโคนต้นมะม่วงอีกด้วย ซึ่งเทคนิคการทำการเกษตรดีๆ แบบนี้ก็ได้รับมาจากสถานพัฒนาที่ดินแม่ฮ่องสอนนั่นเอง ด้านนายเธียรชัย แซ่จู หมอดินอาสาประจำหมู่บ้านหนองผาจ้ำ หรือประธานแปลงใหญ่มะม่วงน้ำดอกไม้ กล่าวว่า จากเดิมพื้นที่ตรงนี้ ปลูกพืชเชิงเดี่ยว เกษตรกรจึงรวมกลุ่มปลูกมะม่วงน้ำดอกไม้ โดยมีตลาดรองรับให้กิโลกรัมละไม่ต่ำกว่า 20 บาท พร้อมปลูกพืชแซมใต้ต้นมะม่วงน้ำดอกไม้ ส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้จากหลายทาง ซึ่งจะเห็นได้ว่ามะม่วงน้ำดอกไม้เป็นพืชที่ทนแล้งดีที่สุด สิ่งที่จูงใจให้เกษตรกรทำก็คือมีบริษัทรองรับอยู่ผลผลิตของกลุ่มแปลงใหญ่ สถานีพัฒนาที่ดินแม่ฮ่องสอน ยังช่วยเหลือเกษตรกรหลายด้าน อย่างเช่น สาธิตการตรวจวิเคราะห์ดิน สนับสนุนปัจจัยการผลิตในการทำน้ำหมักชีวภาพพด.2 ปุ๋ยหมักชีวภาพ พด.1 ตรวจวิเคราะห์ค่าดินทำให้มีดินที่ดีขึ้น ส่งผลไปสู่การมีผลผลิตทีมีคุณภาพอีกด้วย อย่างไรก็ตามกลุ่มแปลงใหญ่มะม่วงน้ำดอกไม้บ้านหนองผาจ้ำ ถือว่ามีการพัฒนาในการปลูกพืชที่ดีขึ้นจากเดิม มีปลูกพืชแซมในร่องสวนเพื่อสร้างรายได้ และจะเห็นได้ว่าสถานีพัฒนาที่ดินแม่ฮ่องสอน ก็ยังยืนหยัดช่วยเหลือเกษตรกรในทุกพื้นที่ พร้อมมุ่งเน้นให้เกษตรกรลดการใช้สารเคมีทางการเกษตรกร หันมาทำการเกษตรอินทรีย์ ซึ่งส่งผลให้ดีต่อตัวของเกษตรกรเองแล้วจะส่งผลต่อระบบนิเวศน์ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนให้กลับมามีความอุดมสมบูรณ์อีกด้วย