ภูเก็ตแจ้งจุดเสี่ยง พบผู้ติดเชื้อ

"ศบค."แถลงพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 5,916 ราย ตายเพิ่ม 44 ราย "กทม."ยอดผู้ป่วยพุ่ง 1,498 ราย "ภูเก็ต"ระทึก! ประกาศพื้นที่จุดเสี่ยง หลังเปิดโครงการ"ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์" พบผู้ติดเชื้อตระเวนเที่ยว แนะผู้สัมผัสเสี่ยงสูงรายงานตัวด่วน ด้าน"นายกฯ"ลงนามคลายล็อกงานก่อสร้าง 4 ประเภท ขณะที่"ส.ว."เสนอรัฐบาล"ล็อคดาวน์ กทม.-ปริมณฑล" หลัง"คนเสี่ยงติดโควิด"ไม่ร่วมมือกักตัว 14 วัน ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 4 ก.ค.64 ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศ ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 5,916 ราย ประกอบด้วย ผู้ติดเชื้อในประเทศจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 4,071 ราย จากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 1,800 ราย และจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 39 ราย ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 6 ราย มาจากคูเวต 2 ราย กัมพูชา 4 ราย โดยเข้ามาช่องทางธรรมชาติ 1 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 44 ราย แยกเป็นเพศชาย 24 ราย เพศหญิง 20 ราย อายุระหว่าง 34-91 ปี ผู้เสียชีวิตอยู่ในกรุงเทพฯ 30 ราย, สมุทรปราการ 3 ราย, ยะลาและนครปฐม จังหวัดละ 2 ราย, ขอนแก่น ฉะเชิงเทรา ปทุมธานี นราธิวาส ประจวบคีรีขันธ์ พระนครศรีอยุธยา และนครศรีธรรมราช จังหวัดละ 1 ราย ส่วนใหญ่มีโรคประจำตัว ได้แก่ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง ไต เป็นต้น สำหรับจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 10 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพฯ 1,498 ราย, ปทุมธานี 458 ราย, สมุทรปราการ 412 ราย, สมุทรสาคร 395 ราย, ชลบุรี 275 ราย, นนทบุรี 267 ราย, สงขลา 232 ราย, นครปฐม 230 ราย, ปัตตานี 213 ราย และ ยะลา 205 ราย โดยไม่พบผู้ติดเชื้อใหม่ 4 จังหวัด คือ อ่างทอง, ลำพูน, ชุมพร และ แม่ฮ่องสอน ขณะเดียวกันพบการระบาดเป็นกลุ่มก้อนใหม่ ได้แก่ สมุทรสาคร (บริษัทเครื่องใช้ในครัวเรือนใน อ.เมือง 15 ราย) , ชลบุรี (บริษัทพิมพ์บรรจุภัณฑ์ใน อ.พานทอง 16 ราย) , นนทบุรี (แคมป์ก่อสร้างใน อ.ไทรน้อย 28 ราย) , ตาก (โรงงานเสื้อผ้าใน อ.แม่สอด 153 ราย) , กระบี่ (โรงเรียนใน อ.คลองท่อม 14 ราย) วันเดียวกัน ศูนย์ข้อมูลโควิดจังหวัดภูเก็ต" ประกาศว่า ผู้ที่ไปใช้บริการร้านสตาร์บัคส์สาขาและวันเวลาดังต่อไปนี้สาขา เซ็นทรัล ฟลอเรสต้า ภูเก็ต ชั้น G1.25/6/64 เวลา 12.30 - 13.50 น.2.27 /6/64 เวลา 9.00 - 12.00 น.3.28/6/64 เวลา 10.00 - 19.00 น.4.29/6/64 เวลา 10.00 - 13.00 น. สาขาเซ็นทรัล ภูเก็ต ชั้น 1 (ฝั่งเฟสติวัล)วันที่ 27/6/64 เวลา 13.00 - 13.45 น.ท่านเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง และมีโอกาสติดเชื้อโควิด-19 และแพร่กระจายเชื้อในชุมชนได้ ขอให้รายงานตัวที่โรงพยาบาลรัฐใกล้บ้าน หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตโดยด่วน หากปกปิดข้อมูลอาจมีความผิดทางกฎหมายตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ทางเพจ ศูนย์ข้อมูลโควิดจังหวัดภูเก็ต ยังประกาศเที่ยวบินเสี่ยง ที่มีผู้โดยสารตรวจพบเชื้อโควิด-19 ระบุว่า ผู้โดยสารสายการบิน Thai Smile เที่ยวบิน WE201 เดินทาง วันที่ 1 ก.ค.64 เวลา 07.40 น. เส้นทาง สุวรรณภูมิ - ภูเก็ต โปรดทราบ ท่านที่นั่งตามหมายเลขที่ระบุไว้ ท่านคือ ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ขอให้ท่านเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน และเข้ากักตัวในสถานที่ที่ราชการกำหนด สอบถามเพิ่มเติม โทร.094-5938876, 062-2435116 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากชาวเน็ตที่ตำหนิว่าการสื่อสาร แจ้งข่าวล่าช้าจนเกินไป เนื่องจากผู้ป่วยเข้าใช้บริการตั้งแต่วันที่ 25 มิ.ย. แต่เพิ่งจะแจ้งเตือนวันที่ 4 ก.ค. ซึ่งอาจจะไม่ทันการณ์ ผู้ป่วยและ กลุ่มผู้มีความเสี่ยง อาจเดินทางไปจังหวัดอื่นแล้วหรือไม่ ทั้งนี้ จ.ภูเก็ต เปิดรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ตามโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เมื่อวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัดภูเก็ต และประเทศ เป็นพื้นที่นำร่องรับนักท่องเที่ยวจากประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ และปานกลาง ซึ่งมีทั้งหมด 66 ประเทศ โดยไม่ต้องกักตัว แต่ผู้ที่เดินทางเข้ามาจะต้องได้รับวัคซีนครบโดส มีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ตั้งแต่วันแรกที่เดินทางเข้ามา และในขณะที่อยู่ภูเก็ตจะต้องตรวจหาเชื้ออีก 2 ครั้ง และจะต้องอยู่ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ครบ 14 คืน รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) ได้ทำหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เพื่อขอให้พิจารณาอนุมัติในหลักการการให้อนุญาตสำหรับการก่อสร้างโครงการก่อสร้างบางประเภท และเคลื่อนย้ายแรงงานในกรณีที่มีความจำเป็น โดยเสนอขอให้มีการผ่อนคลายข้อกำหนดฉบับที่ 25 กรณีคำสั่งห้ามการก่อสร้างในโครงการก่อสร้างบางประเภท ได้แก่ 1. โครงการก่อสร้างซึ่งหากหยุดก่อสร้างในทันที หรือการดำเนินการล่าช้า อาจก่อให้เกิดความเสียหายเชิงโครงสร้างด้านวิศวกรรมจนยากต่อการแก้ไข หรือเกิดอันตรายแก่ประชาชนที่สัญจรไปมา หรือ ชุมชนโดยรอบโครงการก่อสร้างนั้น เช่น โครงการก่อสร้างใต้ดินที่มีความลึก การก่อสร้างชั้นใต้ดินที่ยังไม่ได้เทปูนปิดล้อม 2. การก่อสร้างชั่วคราวซึ่งหยุดการก่อสร้างในทันที หรือดำเนินการล่าช้าจะได้รับความเสียหายจนเกิดอันตรายแก่ประชาชนที่สัญจรไปมา หรือชุมชนโดยรอบโครงการดังกล่าว เช่น นั่งร้าน และแบบรอการเทปูน โดยเฉพาะแผ่นพื้นที่ 3. การก่อสร้างที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยด้านการจราจร เช่น ไฟสัญญาณจราจร แบริเออร์กั้นช่องจราจร แผ่นเหล็กปิดงานก่อสร้างบนผิวจราจร และ 4. การก่อสร้างในสถานที่ก่อสร้างที่มีความเกี่ยวข้องกับมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ด้านสาธารณสุข เช่น โรงพยาบาลสนาม โรงพยาบาล สถานพยาบาล หรือ สถานที่ก่อสร้างอื่นๆ ที่ใช้เพื่อประโยชน์ในการควบคุมโรค นอกจากนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมพิจารณาขอผ่อนคลายคำสั่งเคลื่อนย้ายแรงงานประเภทก่อสร้างจากสถานที่พักชั่วคราว ทั้งกรณีการข้ามเขตจังหวัด หรือภายในเขตจังหวัด เพื่อประโยชน์ในการควบคุมโรคโควิด-19 เช่น การรักษาพยาบาล การควบคุมป้องกันโรค การตรวจสุขภาพ การตรวจวินิจฉัยและการฉีดวัคซีน ทั้งนี้ ให้ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หรือ ผู้ว่าราชการจังหวัด ที่ได้รับมอบอำนาจจากคณะกรรมการโรคติดต่อเป็นผู้พิจารณาอนุญาตโครงการก่อสร้างที่เข้าหลักเกณฑ์ทั้ง 4 ประเภทข้างต้นในเขตพื้นที่ของตนเองเป็นกรณีไป ขณะที่ นายสมชาย แสวงการ ส.ว. ฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ค เพื่อเรียยกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมใช้ความเด็ดขาดสั่งล็อคดาวน์กรุงเทพ และจังหวัดปริมณฑล หลังจากพบว่ามาตรการให้คนที่มีความเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 กักตัวเอง 14 วัน มีบางส่วนไม่ให้ความร่วมมือ เจ็บนี้อาจไม่จบแต่ไม่ป่วยเป็นหมื่นตายเป็นร้อยแน่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากโพสต์ข้อความดังกล่าว มีผู้แสดงความเห็นจำนวนหนึ่ง โดยส่วนใหญ่สนับสนุนในความคิด แต่มีบางส่วนที่ตั้งคำถามกลับว่า หากล็อคดาวน์จริงผู้ที่ได้รับผลกระทบ เช่น ผู้ประกอบการร้านอาหาร, ประชาชน จะบรรเทาความเดือดร้อนและเสียหายอย่างไร รวมถึงมีผู้เสนอความเห็นว่า ไม่ควรล็อคดาวน์ แต่ควรใช้มาตรการ Bubble and Seal เพื่อให้เศรษฐกิจและการท่องเที่ยวท้องถิ่นสามารถดำเนินการได้