ผู้ว่า ฯ แม่ฮ่องสอน ลงพื้นที่ ดูแลทุกข์สุขชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนขาดแคลนน้ำอุปโภค-บริโภค ที่บ้านน้ำฮูรายทาง หมู่ที่ 1 ตำบลสบป่อง อำเภอปางมะผ้า
เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2564 นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เดินทางลงพื้นที่บ้านน้ำฮูรายทาง หมู่ที่ 1 ตำบลสบป่อง อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อรับเรื่องความเดือดร้อนของชาวบ้าน จำนวน 17 หลังคาเรือน ที่ขาดแคลนน้ำอุปโภค บริโภค
โดยมีนายชัยพล โรจนวิสิฐ นายอำเภอปางมะผ้า นายปรีชา เลาลี กำนันตำบลสบป่อง พร้อมตัวแทนชาวบ้าน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รายงานถึงปัญหาและสาเหตุหลักของการขาดแคลนน้ำดังกล่าว ว่า ชาวบ้านน้ำฮูรายทาง ได้อาศัยน้ำเพื่ออุปโภค –บริโภค จากโครงการระบบเก็บกักน้ำในถ้ำตามพระราชดำริ ( ถ้ำน้ำฮูรายทาง ) ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2551 ซึ่งสามารถส่งน้ำให้กับราษฎรประมาณ 19 ครัวเรือน ส่งน้ำช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรในเขตบ้านน้ำฮูรายทาง ประมาณ 80 ไร่ ส่งน้ำช่วยเหลือพื้นที่ของสำนักงานปศุสัตว์อำเภอปางมะผ้า ในการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ และป้องกันบรรเทาอุทกภัย การไหลเอ่อล้นของน้ำท่วมถนนทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 1095 ( บริเวณ กม.145+000 /กม.146+000 ) โดยได้มีการจัดตั้งกลุ่มผู้ใช้น้ำ เพื่อบริหารจัดการน้ำของโครงการ ฯ อย่างเป็นธรรม เสมอภาคและเกิดประโยชน์สูงสุด
แต่ปัจจุบัน โครงการดังกล่าว ซึ่งเป็นสระเก็บน้ำดาดคอนกรีต หนา 0.08 เมตร เสริมเหล็ก กว้าง 20.00 เมตร ยาว 54.00 เมตร ลึก 4.50 เมตร มีปริมาตรน้ำเก็บกัก ที่ระดับน้ำเก็บกัก 2,040 ลูกบาศก์เมตร และที่ระดับ Stop Log อัดน้ำ 2,910 ลูกบาศก์เมตร มีอาคารระบายน้ำล้น (Spillway) เป็นฝายคอนกรีตเสริมเหล็ก ขนาดสันกว้าง 6.00 เมตร สูง 3.00 เมตร เกิดการทรุดโทรมเนื่องจากไม่ได้รับการดูแล เช่น เสาปูนแผงกั้นน้ำเอียง ประตูน้ำปิด เปิดยากลำบาก ท่อระบบส่งน้ำตัน เนื่องจากมีตะกอนไหลลงมาทับถมในอ่างเป็นจำนวนมาก น้ำให้น้ำแห้งมีสีขุ่น มีกลิ่น และน้ำไม่พอใช้ ทำให้ชาวบ้านในแถบนี้ขาดแคลนน้ำอุปโภค บริโภคเป็นอย่างมาก ซึ่งทาง องค์การบริหารส่วนตำบลสบป่อง ได้นำแท้งค์น้ำขนาด 2,000 ลิตร จำนวน 10 แท้งค์ บรรจุน้ำสะอาดให้กับชาวบ้านได้ใช้ เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน
ทั้งนี้ นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้รับเรื่องและรับทราบปัญหาดังกล่าว พร้อมกับให้แนวทางการแก้ไขปัญหา โดยจะได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาดูแลเพื่อแก้ไขปัญหา และสร้างความยั่งยืนให้กับระบบน้ำเพื่อใช้ในการอุปโภค บริโภค ในระยะยาวให้ชาวบ้าน ที่ได้รับความเดือดร้อน อย่างเร่งด่วนแล้ว
เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2564 นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เดินทางลงพื้นที่บ้านน้ำฮูรายทาง หมู่ที่ 1 ตำบลสบป่อง อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อรับเรื่องความเดือดร้อนของชาวบ้าน จำนวน 17 หลังคาเรือน ที่ขาดแคลนน้ำอุปโภค บริโภค
โดยมีนายชัยพล โรจนวิสิฐ นายอำเภอปางมะผ้า นายปรีชา เลาลี กำนันตำบลสบป่อง พร้อมตัวแทนชาวบ้าน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รายงานถึงปัญหาและสาเหตุหลักของการขาดแคลนน้ำดังกล่าว ว่า ชาวบ้านน้ำฮูรายทาง ได้อาศัยน้ำเพื่ออุปโภค –บริโภค จากโครงการระบบเก็บกักน้ำในถ้ำตามพระราชดำริ ( ถ้ำน้ำฮูรายทาง ) ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2551 ซึ่งสามารถส่งน้ำให้กับราษฎรประมาณ 19 ครัวเรือน ส่งน้ำช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรในเขตบ้านน้ำฮูรายทาง ประมาณ 80 ไร่ ส่งน้ำช่วยเหลือพื้นที่ของสำนักงานปศุสัตว์อำเภอปางมะผ้า ในการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ และป้องกันบรรเทาอุทกภัย การไหลเอ่อล้นของน้ำท่วมถนนทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 1095 ( บริเวณ กม.145+000 /กม.146+000 ) โดยได้มีการจัดตั้งกลุ่มผู้ใช้น้ำ เพื่อบริหารจัดการน้ำของโครงการ ฯ อย่างเป็นธรรม เสมอภาคและเกิดประโยชน์สูงสุด
แต่ปัจจุบัน โครงการดังกล่าว ซึ่งเป็นสระเก็บน้ำดาดคอนกรีต หนา 0.08 เมตร เสริมเหล็ก กว้าง 20.00 เมตร ยาว 54.00 เมตร ลึก 4.50 เมตร มีปริมาตรน้ำเก็บกัก ที่ระดับน้ำเก็บกัก 2,040 ลูกบาศก์เมตร และที่ระดับ Stop Log อัดน้ำ 2,910 ลูกบาศก์เมตร มีอาคารระบายน้ำล้น (Spillway) เป็นฝายคอนกรีตเสริมเหล็ก ขนาดสันกว้าง 6.00 เมตร สูง 3.00 เมตร เกิดการทรุดโทรมเนื่องจากไม่ได้รับการดูแล เช่น เสาปูนแผงกั้นน้ำเอียง ประตูน้ำปิด เปิดยากลำบาก ท่อระบบส่งน้ำตัน เนื่องจากมีตะกอนไหลลงมาทับถมในอ่างเป็นจำนวนมาก น้ำให้น้ำแห้งมีสีขุ่น มีกลิ่น และน้ำไม่พอใช้ ทำให้ชาวบ้านในแถบนี้ขาดแคลนน้ำอุปโภค บริโภคเป็นอย่างมาก ซึ่งทาง องค์การบริหารส่วนตำบลสบป่อง ได้นำแท้งค์น้ำขนาด 2,000 ลิตร จำนวน 10 แท้งค์ บรรจุน้ำสะอาดให้กับชาวบ้านได้ใช้ เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน
ทั้งนี้ นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้รับเรื่องและรับทราบปัญหาดังกล่าว พร้อมกับให้แนวทางการแก้ไขปัญหา โดยจะได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาดูแลเพื่อแก้ไขปัญหา และสร้างความยั่งยืนให้กับระบบน้ำเพื่อใช้ในการอุปโภค บริโภค ในระยะยาวให้ชาวบ้าน ที่ได้รับความเดือดร้อน อย่างเร่งด่วนแล้ว