เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 4 กรกฎาคม 2564 พ.ต.อ.วิโรจน์ ตัดโส ผกก.สภ.บางพลี สมุทรปราการ พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมตัวนายพงษ์เพชร มงคล อายุ 24 ปี ชาวจังหวัดชลบุรี ผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์ ร้านค้าทอง เยาวราช ลิขิตเฮง ตั้งอยู่เลขที่ 127 / 22 ซอยลิขิต 7 หมู่ 12 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ และเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 282 / 2564 ลงวันที่ 24 มิถุนายน 2564 พร้อมของกลางกระเป๋าสะพาย นาฬิกาข้อมือ และรองเท้าแตะสีขาว ซึ่งสวมใส่ไปในขณะลงมือก่อเหตุ พร้อมด้วยรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า คลิ๊ก สีดำแดง ทะเบียน 1 ขฆ-8272 กทม. ที่ใช้เป็นพาหนะในการก่อเหตุและหลบหนี อาวุธปืนปลอมแบบแม็กกาซีน จำนวน 1 กระบอก โดยจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 36 / 87 หมู่ 1 ต.หนองซาก อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นบ้านเกิดของผู้ก่อเหตุ สืบเนื่องจาก เมื่อเวลา 18.30 น.วันที่ 20 มิถุนายน 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางพลี สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนเข้าจี้ชิงทรัพย์ สร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท ภายในร้านค้าทอง เยาวราช ลิขิตเฮง ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 127 / 22 ซอยลิขิต 7 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเดินทางเข้าตรวจสอบ จากภาพกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้ภายในร้านค้าทองดังกล่าว ได้พบว่า ผู้ก่อเหตุเป็นชายอายุไม่เกิน 30 ปี ใส่เสื้อแขนสั้นสีฟ้า กางเกงขาสั้นสีเทา ได้ขี่รถจักรยานยนต์.มาจอดที่หน้าร้านทองดังกล่าว ก่อนเข้าไปทำทีขอดูสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาทจากพนักงานในร้านทองดังกล่าว โดยผู้ก่อเหตุได้ทำทีเอาสร้อยคอทองคำเส้นดังกล่าวสวมใส่ที่คอตัวเอง ก่อนที่จะใช้มือข้างขวาล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงออกมาขู่บังคับให้พนักงานของร้ายทองดังกล่าวถอยหลังไปและห้ามส่งเสียงโวยวาย ก่อนที่คนร้ายจะวิ่งออกจากร้านและขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวหลบหนีออกไปทางปากซอยและเลี้ยวขวาออกถนนกิ่งแก้ว จากการสืบสวนได้พบรถจักรยานยนต์คันที่ผู้ก่อเหตุใช้เป็นพาหนะในการก่อเหตุและหลบหนี ได้ไปจอดทิ้งไว้ในลานจอดรถห้างบิ๊กซีบางพลี จึงได้ทำการตรวจยึดเอาไว้และตรวจสอบผู้ครอบครอง พบว่าผู้ครอบครองชื่อนายโชคชัย มงคล จึงติดตามไปเชิญตัวนายโชคชัย มาทำการสอบสวนและให้ผู้เสียหายดูปรากฏว่าไม่ใช่ตัวผู้ก่อเหตุ โดยนายโชคชัย ได้ให้ข้อมูลว่าในวันที่เกิดเหตุนายพงษ์เพชร หรือ แต้ม ได้มาขอยืมรถจักรยานยนต์ของตนไป พร้อมทั้งชี้ยืนยันภาพจากกล้องวงจร ปิดว่าคนในภาพดังกล่าวคือนายพงษ์เพชร ผู้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมพยานหลักฐานเข้าขออนุมิติหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการ ออกติดตามจับกุมตัวนายพงษ์เพชร หรือนายแต้ม และทราบว่าหลังก่อเหตุนายพงษ์เพชร ได้หลบหนีไปกบดานอยู่ที่บ้านในจังหวัดชลบุรี จึงประสานบเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.บ้านบึง จ.ชลบุรี เข้าทำการจับกุมตัวนายพงษ์เพชร เอาไว้ได้ที่บ้านหลังดังกล่าว ก่อนควบคุมตัวกลับมาทำการสอบสวนที่ สภ.บางพลี จากการสอบสวนนายพงษ์เพชร ได้ให้การรับสารภาพว่า ก่อนก่อเหตุตนได้มาเที่ยวที่บ้านญาติ ซึ่งอยู่ในซอยเดียวกับร้านทองดังกล่าว ห่างกันประมาณ 100 เมตร โดยก่อนลงมาก่อเหตุตนได้ขี่รถจักรยานยนต์มาตระเวนดูก่อน และในช่วงเย็นของวันรุ่นขึ้นจึงได้ยืมรถจักรยานยนต์ของญาติมาก่อเหตุ และขี่หลบหนีเอารถไปจอดที่ห้าง บิ๊กซีบางพลี และนำทองไปขายที่ร้านทองภายในห้างดังกล่าว ได้เงินมาประมาณ 5 หมื่นกว่าบาท หลังได้เงินมาก็ไปซื้อเสื้อผ้ามาเปลี่ยนก่อนที่จะจะขึ้นรถตู้หลบหนีกลับไปบ้านเกิดในย่านบ้านบึง จ.ชลบุรี ส่วนปืนที่ใช้ก่อเหตุเป็นปืนอัดลม และเงินที่เหลือได้นำไปซื้อยาไอซ์และยาบ้านมาเสพ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า วิ่งราวทรัพย์ โดยมีหรือใช้อาวุธปืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปเพื่อให้พ้นจากการจับกุม ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางพลี สมุทรปราการ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป