สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า คณะกรรมาธิการยุโรป หรืออีซี อาจไม่เปิดรับนักเดินทางที่ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ขนานแอสตราเซเนกา ที่ผลิตในประเทศอินเดีย หรือที่เรียกว่า “โควิชิลด์” แม้ว่าจะฉีดครบ 2 เข็มแล้วก็ตาม หลังจากที่สหภาพยุโรป หรืออียู เปิดพรมแดนรับนักท่องเที่ยวนอกภูมิภาคเดินทางเข้าไปยังประเทศต่าๆ ของชาติสมาชิกอียู รายงานข่าวแจ้งว่า สาเหตุที่ทางอีซี อาจไม่เปิดรับนักเดินทางที่ฉีดวัคซีนขนานดังกล่าว เนื่องจากวัคซีนโควิชิลด์ ซึ่งเป็นวัคซีนขนาน “แอสตราเซเนกา” ที่ผลิตโดย “สถาบันเซรุ่มแห่งอินเดีย” หรือ “เอสไอเอ” ประเทศอินเดีย ผลิตขึ้นมานั้น ยังไม่ไดยื่นขออนุมัติทางการค้ากับอียู โดยนายสเตฟาน เดอ เคียร์สแมกเกอร์ โฆษกด้านสุขภาพ ความปลอดภัยทางอาหาร และการขนส่ง ของอีซี กล่าวว่า ขณะนี้ องค์การยาแห่งยุโรป หรืออีเอ็มเอ ได้อนุมัติวัคซีน “แว็กซ์เซฟเรีย” ซึ่งเป็นวัคซีนขนาน “แอสตราเซเนกา” ที่ผลิตในยุโรปไปแล้ว หลังยื่นขออนุมัติทางการค้ากับอียู แต่ทางโควิชิลด์ยังไม่ได้ยื่นขออนุมัติ ส่วนวัคซีนขนานต่างๆ ที่ทางอีซีอนุญาตให้ผู้ที่ผ่านการฉีดวัคซีนครบตามจำนวนโดส เข้าพรมแดนได้นอกเหนือจากวัคซีนแว็กซ์เซฟเรียแล้ว ได้แก่ วัคซีนขนานไฟเซอร์ วัคซีนขนานโมเดอร์นา และวัคซีนขนานจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน สำหรับ วัคซีนโควิชิลด์ มีรายงานว่า นอกจากถูกผลิตขึ้นมาใช้ฉีดในอินเดียแล้ว ก็ยังส่งออกมายังอังกฤษ จำนวน 5 ล้านโดสด้วยกัน โดยนำไปฉีดในพื้นที่ทางตอนเหนือของเวลส์ และเทศมณฑลสแตฟฟอร์ดเชอร์