ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 21.00 น.ของวันที่ 3 ก.ค.64 พ.ต.ท.สุคนธ์ รัสเอี่ยม สารวัตรเวรสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่าเกิดอุบัติเหตุรถสองแถวสีส้มชนกับรถ จยย.มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ราย บาดเจ็บสาหัสอีก 1 ราย เหตุเกิดบนถนนสายกาญจนบุรี-ลาดหญ้า ตรงปากซอยทางเข้า-ออกข้างสุสานสหประชาชาติ ต.บ้านเหนือ อ.เมืองฯ หลังรับแจ้งจึงรีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมประสานแพทย์เวร รพ.พหลพลพยุหเสนาฯ ร่วมกับมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ ให้มาร่วมชันสูตรพลิกศพ จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุสีส้ม หมายเลขทะเบียนป้ายเหลือง 10-2326 กาญจนบุรี ซึ่งเป็นรถรับ-ส่งผู้โดยสารที่วิ่งรอบตัวเมืองกาญจน์ จอดอยู่ในสภาพด้านหน้าและฝากระโปรงรถพังเสียหาย ใกล้กันพบรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้าคลิกสีดำแดง หมายเลขทะเบียน 1กฒ-1835 กาญจนบุรี จอดอยู่ในสภาพล้มคว่ำพังเสียหายเช่นกัน ในที่เกิดเหตุพบร่างผู้เสียชีวิต 1 รายเป็นหญิงสาว อายุ 55 ปี นอนหงายจมกองเลือดเสียชีวิตอยู่ในสภาพขาด้านขวาและลำคอหักผิดรูป สอบสวนทราบชื่อผู้ตายอยู่ ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี จึงมอบศพให้มูลนิธิฯ นำศพไปให้แพทย์ทำการชันสูตรต่อเนื่องและเก็บรักษาไว้ที่ รพ.ฯ เพื่อรอญาติมาติดต่อขอรับศพไปดำเนินการตามประเพณีทางศาสน อุบัติเหตุครั้งนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 ราย เป็นเพื่อนกับผู้ตาย ที่นั่งซ้อนท้ายรถ จยยมากับผู้ตาย เจ้าหน้าที่กู้ชีพมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ ต้องรีบนำตัวส่ง รพ.ฯ เป็นการด่วน เนื่องจากมีอาการสาหัสสอบสวนทราบชื่อคือนางปุญญิศา ทองสม อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 204/104 หมู่ 1 ต.หนองไผ่ล้อม อ.เมือง จ.นครราชสีมา เบื้องต้นจากการสอบสวนปากคำญาติๆ ของผู้ตายทราบว่า ผู้ตายกับเพื่อนสาววัยเดียวกันได้ขับขี่รถ จยย.นั่งซัอนท้ายไปร่วมงานสวดพระอภิธรรมศพ ซึ่งจัดขึ้นที่วัดเทวสังฆาราม(วัดเหนือ) และเมื่อดูภาพจากกล้องวงจรปิดที่บริเวณหน้าจุดบริการประชาชนบ้านดอนรัก พบว่า หลังเสร็จจากการไปร่วมงานศพ นส.เดือน ผู้ตายกับเพื่อนได้ขี่รถ จยย.นั่งซ้อนท้ายกันมาเพื่อมุ่งหน้ากลับบ้าน ขณะที่คนทั้ง 2 ได้ขี่รถ จยย.เลี้ยวออกมาจากซอยตรงจุดเกิดเหตุข้างสุสานสหประชาชาติ เพื่อออกถนนใหญ่ เป็นเวลาเดียวกันกับที่รถโดยสาร 2 แถววิ่งมุ่งหน้าจากตัวเมืองกาญจน์ เพื่อจะไปทาง 4 แยกแก่งเสี้ยนวิ่งมาด้วยความเร็วสูง จึงเกิดพุ่งชนกันอย่างจัง จนเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว ส่วนสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ คาดว่าต่างฝ่ายต่างประมาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ติดตามสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายกันต่อไป