ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลากลาง จ.สมุทรสาคร นางอรุณรัตน์ น้อมนพ ประธานศูนย์คุ้มครองสิทธิผู้บริโภคจังหวัดสมุทรสาคร และสมาชิกศูนย์คุ้มครองสิทธิผู้บริโภคฯ เข้ายื่นหนังสือต่อ สว.สมุทรสาคร โดยมีนางสาวธนัธอร แสงค้า ผู้ช่วยฯในฐานะผู้รับหนังสือเพื่อขอให้ นายศรีศักดิ์ วัฒนพรมงคล สมาชิกวุฒิสภาฯ (สว.) สมุทรสาคร ช่วยให้ช่วยดำเนินการนำส่งเรื่องเข้าสภาฯเพื่อร่วมการคัดค้านโครงการ (CPTPP) “ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก CPTPP” หรือความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้า สำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจของภาคพื้นแปซิฟิก ทั้งนี้ว่า โดยมีเครือข่ายภาคประชาชนในนามกลุ่มผู้คัดค้านมาร่วมมือร่วมใจ เพื่อหวังส่งผ่านไปยังคณะรัฐมนตรี และคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ (กนศ.) ก็เพื่อไม่ให้ประเทศไทยเข้าร่วมกับโครงการนี้
นางอรุณรัตน์ น้อมนพ กล่าวว่า เรื่องความตกลงของโครงการ CPTPP ที่จะมีปัญหาในอนาคตนั้นมีเครือข่ายภาคประชาชนจำนวนมากในสมุทรสาคร และกลุ่มองค์กรต่างๆ ในนามของศูนย์คุ้มครองสิทธิผู้บริโภค ไม่เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งก็เพราะความเสียเปรียบ อย่างไรก็ตามหากประเทศไทยไปเข้าโครงการนี้ก็จะทำให้ถูกจำกัดสิทธิในหลายอย่างหลายด้าน และภาคการทำเกษตรต้องเสียหายหนัก ตลอดจนเสียด้านงบประมาณอย่างมหาศาลในอนาคต ทั้งนี้ซึ่งไม่เป็นไปอย่างที่ผลการศึกษาตามแบบจำลองทางเศรษฐศาสตร์ ที่กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ได้สรุปไว้ จึงพร้อมใจกันมาร่วมคัดค้านเรื่องปัญหาอาจจะถูกจำกัดสิทธิดังกล่าวได้ต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นคณะได้เดินทางเพื่อเข้าไปพบ นางสาวจอมขวัญ กลับบ้านเกาะ ส.ส.สมุทรสาคร (เขต 3) อ.บ้านแพ้ว เพื่อส่งเรื่องการคัดค้านปัญหาดังกล่าวด้วยเช่นกัน รวมทั้งได้เข้ายื่นหนังสือค้านถึงสภาเกษตรจังหวัดสมุทรสาคร และพาณิชย์จังหวัดสมุทรสาคร ต่อไปตามลำดับ
ทั้งนี้สาเหตุที่ผู้คนจำนวนมากได้ออกคัดค้านในการนี้ สืบเนื่องจากมีรายงานว่าทาง ครม.กำลังจะหารืออนุมัติให้ไทยเข้าเป็นสมาชิก CPTPP หรือ( Comprehensive and Progressive Agreement of Trans-Pacific Partnership) ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก อันจะทำให้มีผลกระทบหลายอย่าง รวมๆ ที่เห็นได้ชัดว่าได้ไม่คุ้มเสียและเรื่องนี้ไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน ที่รัฐสมควรต้องฟังเสียงประชาชนมากกว่านี้และคิดใช้เวลาพิจารณาอย่างรอบครอบ แม้ขนาดประเทศสหรัฐอเมริกาก็ยังถอนตัวออกจาก CPTPP ไปแล้ว โดยขณะที่ไทยเองมีข้อตกลงการการค้าเสรี FTA อยู่แล้วทั้งหมดจึงเห็นว่าไม่สมควร